วัคซีนเข็ม3 กระตุ้นด้วย AZ-mRNA หลังฉีดเชื้อตายสู้โอมิครอนได้ดีที่สุด

28 ม.ค. 2565 | 09:18 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ม.ค. 2565 | 16:18 น.

วัคซีนเข็ม3 กระตุ้นด้วย AZ (แอสตร้าเซนเนก้า) หรือ mRNA หลังฉีดเชื้อตาย 2 เข็ม สู้โอมิครอนได้ดีที่สุด หมอยงชี้เตรียมส่งข้อมูลวิจัยเผยแพร่ในวารสารนานาชาติ

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ โพสต์ข้อความว่า
วัคซีนโควิด-19 การกระตุ้นเข็ม 3 ด้วยวัคซีนต่างๆหลังจากได้รับวัคซีนเชื้อตายมาแล้ว 2 เข็ม

วันนี้จะขอแสดงผลของการกระตุ้นเข็ม 3  หลัง ได้รับวัคซีนเชื้อตาย Sinovac (ซิโนแวค) มาแล้ว 2 เข็มเป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือน กลุ่มละประมาณ 60 คน (ก่อนหน้านี้เคยนำเสนอระยะห่าง 3 เดือนมาแล้ว)  เป็นงานวิจัยทางคลินิก 

 

 

โดยดูผลการตอบสนองภูมิต้านทานต่อสายพันธุ์เดลตา และโอมิครอน (Omicron) โดยทำการศึกษาด้วยวิธีการคล้ายไวรัสเทียม 

 

 

และต่อไวรัสจริงสายพันธุ์เดลตาและโอมิครอน ที่แยกได้ในประเทศไทย โดยได้รับความร่วมมือจาก ดร. ฐนียา ดวงจินดา หน่วยปฏิบัติการเทคโนโลยีชีวภาพทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เป็นผู้ทำ FRNT ให้ 

ซึ่งจะได้ข้อมูลที่ตอบสนองได้ดีกว่า และน่าเชื่อถือมากกว่าไวรัสเทียม  
ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนเชื้อตายมาแล้ว 2 เข็ม เมื่อกระตุ้นด้วยเชื้อตายอีก  1 ครั้ง 

 

 

ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้น ที่ตอบสนองต่อสายพันธุ์เดลตาและโอมิครอน ทั้งไวรัสจริงและไวรัสเทียม สู้การให้วัคซีนชนิดไวรัสเวกเตอร์ AZ หรือ mRNA ไม่ได้

 

 

 

การกระตุ้นเข็ม 3 หลังฉีดเชื้อตาย 2 เข็ม

 

 

 

และในการกระตุ้นด้วย mRNA วัคซีน moderna ตอบสนองภูมิต้านทานต่อสายพันธุ์โอมิครอน  ได้ดีที่สุด สูงกว่าการกระตุ้นด้วยวัคซีนเชื้อตายถึง 22 เท่า
โดยสรุปแล้วการกระตุ้นเข็ม 3 ด้วยไวรัสเวกเตอร์ (AZ) mRNA (Pfizer หรือ Moderna) ได้ผลดี ต่อสายพันธุ์เดลตา และโอมิครอน  

 

 

และขณะนี้ก็ใช้เป็นแนวทางการปฏิบัติสำหรับประเทศไทยอยู่แล้ว
ข้อมูลทั้งหมดนี้ ได้ส่งไป เพื่อเผยแพร่ในวารสารนานาชาติ และ จะส่งเผยแพร่แบบ preprint MedRxiv วันนี้

สำหรับการฉีดวัคซีนโควิดในประเทศไทยนั้น "ฐานเศรษฐกิจ" ติดตามข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขพบว่า ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.64 - 26 ม.ค.65 มีการฉีดสะสมแล้วทั้งหมด 113,622,267 โดส แบ่งเป็น

 

 

  • เข็มที่ 1 จำนวน 52,174,471 ราย  
  • เข็มที่ 2 จำนวน 48,355,039 ราย
  • เข็มที่ 3 จำนวน 13,092,757 ราย