คลายล็อกนั่งกินในร้านเสี่ยงโควิดแพร่กระจายสูง หมอธีระแนะซื้อกลับบ้าน

30 ส.ค. 2564 | 08:19 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ส.ค. 2564 | 15:18 น.
505

หมอธีระชี้การคลายล็อกนั่งกินอาหารในร้านเสี่ยงโควิดแพร่กระจายสูง หลังสถานการณ์ระบาดยังรุนแรง และเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แนะซื้อกลับบ้านปลอดภัยกว่า

รายงานข่าวระบุว่า รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า
สถานการณ์ทั่วโลก 30 สิงหาคม 2564
ทะลุ 217 ล้านไปแล้ว ในขณะที่อิหร่านแซงโคลอมเบียขึ้นมาเป็นอันดับ 9 ของโลก
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 448,743 คน รวมแล้วตอนนี้ 217,173,725 คน ตายเพิ่มอีก 7,271 คน ยอดตายรวม 4,514,174 คน
5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุดคือ อินเดีย อเมริกา สหราชอาณาจักร อิหร่าน และญี่ปุ่น 
อเมริกา ติดเชื้อเพิ่ม 36,561 คน รวม 39,664,814 คน ตายเพิ่ม 284 คน ยอดเสียชีวิตรวม 654,689 คน อัตราตาย 1.7% 
อินเดีย ติดเพิ่ม 43,381 คน รวม 32,737,569 คน ตายเพิ่ม 527 คน ยอดเสียชีวิตรวม 438,387 คน อัตราตาย 1.3% 
บราซิล ติดเพิ่ม 13,210 คน รวม 20,741,815 คน ตายเพิ่ม 256 คน ยอดเสียชีวิตรวม 579,308 คน อัตราตาย 2.8%
รัสเซีย ติดเพิ่ม 19,286 คน รวม 6,882,827 คน ตายเพิ่ม 797 คน ยอดเสียชีวิตรวม 181,637 คน อัตราตาย 2.6% 
ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 13,630 คน ยอดรวม 6,742,488 คน ตายเพิ่ม 53 คน ยอดเสียชีวิตรวม 114,210 คน อัตราตาย 1.7%
อันดับ 6-10 เป็น สหราชอาณาจักร ตุรกี อาร์เจนติน่า อิหร่าน และโคลอมเบีย ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่น 
แถบอเมริกาใต้ ยุโรป แอฟริกา เอเชีย หลายต่อหลายประเทศติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น 

หากรวมทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ พบว่ามีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 91.01 ของจำนวนติดเชื้อใหม่ทั้งหมดต่อวัน
แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลักร้อยถึงหลักพัน 
แถบตะวันออกกลางส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักร้อยถึงหลักพัน ยกเว้นอิหร่านติดเพิ่มหลักหมื่นอย่างต่อเนื่อง 
เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และญี่ปุ่น ติดเพิ่มกันหลักหมื่น
ส่วนเมียนมาร์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ ติดกันหลักพัน กัมพูชา ลาว และสิงคโปร์ ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน ไต้หวัน และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ฮ่องกงติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์
สถานการณ์ของไทยเรา
หากรวมยอดติดเชื้อใหม่วันนี้ จะแซงเบลเยี่ยมขึ้นเป็นอันดับ 29 ของโลกได้
จำนวนเสียชีวิตเพิ่มเมื่อวานนี้ 264 คน สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก
หมอธีระ ระบุอีกว่า ปลดล็อค 1 กันยายนนั้น ตามหลักวิชาการแล้วจะต้องมีผลกระทบเกิดขึ้นได้แน่นอน เพราะสถานการณ์ระบาดยังรุนแรง และเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
คำเตือนที่จะช่วยกันบอกต่อได้คือ 
1. "ขอให้ลด ละ เลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อแพร่เชื้อ"
2. "หากต้องพบปะกับคนอื่นเยอะ ใกล้ชิดสัมผัสกัน ไม่ได้ใส่หน้ากากขณะอยู่ในสถานที่ที่มีคนอื่นเยอะ แชร์ของกินของใช้กัน ถือว่าเสี่ยง และควรคอยสังเกตอาการ และตรวจคัดกรองโรคเป็นระยะด้วย"
3. "หากตัวเองเสี่ยง ขอให้ระวังนำพาเชื้อไปติดคนใกล้ชิดในบ้าน"
4. "แม้ฉีดวัคซีนแล้ว ก็ยังติดเชื้อได้ แพร่เชื้อได้ ป่วยได้ ตายได้ ดังนั้นต้องไม่ประมาท ยังต้องป้องกันตัวเสมอ"

ยังยืนยันว่า การกินดื่มในร้านอาหาร โรงอาหาร และศูนย์อาหารนั้น ต้องระมัดระวังมากๆ เพราะเป็นสถานการณ์ที่เราจะไม่ได้ใส่หน้ากาก เป็นระยะเวลานาน มีการพูดคุยกันเฮฮากัน มีโอกาสแชร์ของกินอุปกรณ์ของใช้กัน มีการจับต้องสิ่งของสาธารณะ และหากสถานที่นั้นเป็นระบบปิด เช่น ห้องแอร์ หรือระบายอากาศไม่ดี โอกาสที่จะเกิดการติดเชื้อแพร่เชื้อแก่กันและกันย่อมมีสูง

คลายล็อกเสี่ยงโควิดแพร่กระจาย
หากจำเป็นต้องไปกิน ควรใช้เวลาสั้นๆ ไม่เกิน 15 นาที แยกของกินของใช้ไม่แชร์กัน เลือกร้านที่โปร่งโล่ง คนน้อยๆ 
แต่จะปลอดภัยกว่า ถ้าซื้อกลับ
ระยะถัดจากนี้ไป "ความใส่ใจต่อสุขภาพตนเอง หรือ Health conscious" จะเป็นปัจจัยหลักเดียวที่จะช่วยให้ปลอดภัย และอยู่ในวิสัยที่จัดการควบคุมเองได้
ไม่ใช่แค่ตัวเราในฐานะประชาชน แต่หมายถึงคนทำงาน และเจ้าของกิจการต่างๆ ทุกประเภท
สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 (Covid-19) ในประเทศไทยวันที่ 30 สิงหาคม 2564 นั้น "ฐานเศรษฐกิจ" ติดตามข้อมูลการรายงานจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. พว่า มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นรวม 15,972 ราย มาจากผู้ติดเชื้อรายใหม่ 15,692 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 280 ราย  ผู้ป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 1,161,200 ราย  เสียชีวิตเพิ่ม 256 ราย หายป่วย 17,281 ราย กำลังรักษา 176,137 ราย หายป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 974,418 ราย