ผู้ว่าฯโคราชการันตี"หลง-ครบุรี"ดีไม่แพ้ต้นฉบับ

ผู้ว่าฯโคราชชมสวนทุเรียน ชิม"หลง-ครบุรี"แล้ว การันตีอร่อยไม่แพ้ต้นฉบับ หนุนเกษตรกรศึกษาศักยภาพพื้นที่ หาแนวทางปรับจากพืชเชิงเดี่ยวสู่สวนผสม เพื่อลดความเสี่ยง เพิ่มความมั่นคงกระจายแหล่งรายได้ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี
    
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนายวิจิตร กิจวิรัตน์ นายอำเภอครบุรี  ลงพื้นที่เยี่ยมชมสวนทุเรียนตาเสวย หรือสวนทุเรียนเสวยผลทอง ซึ่งเป็นสวนของนายเสวย  สาดกระโทก อายุ 67 ปี ตั้งอยู่ที่บ้านโคกใบบัว  ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นสวนทุเรียนสวนแรกของอำเภอครบุรี ที่ได้เพาะปลูกมานานเกือบ 30 ปีแล้ว โดยคุณตาเสวยได้เริ่มปลูกทุเรียนมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2539 เพียงแค่ 12 ต้น เป็นพันธุ์หมอนทองได้ผลดีเป็นที่น่าพอใจ จึงได้ทยอยเพาะปลูกเพิ่ม และนำทุเรียนสายพันธ์อื่น ๆ มาปลูกเพิ่มจนเต็มเนื้อที่ของสวนที่มีอยู่ 40 ไร่ อาทิ พันธุ์พวงมณี  ก้านยาว และหลงลับแล ที่เริ่มให้ผลผลิตแล้วและกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากของตลาด  
    

ปัจจุบันภายในสวนทุเรียนของคุณตาเสวย มีทุเรียนอยู่กว่า 700 ต้น คาดว่าในปีนี้จะให้ผลผลิตมากถึง 7 ตันเลยทีเดียว  โดยเฉพาะพันธุ์หลงลับแล หรือที่เรียกกันว่า หลงครบุรี ที่เริ่มให้ผลผลิตครั้งแรกในปีนี้ จำนวนกว่า 100 ลูก ที่ถูกจองไปจนหมดแล้ว  นอกจากนี้ภายในสวนยังมีผลไม้อีกหลากหลายชนิด อาทิ เงาะ และลองกอง ที่ได้ปลูกแซมเอาไว้ และกำลังให้ผลผลิตและได้รับความนิยมเช่นกัน
    

นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า  ตนเองเพิ่งมาดำรงตำแหน่ง จึงเพิ่งได้มาเห็นสวนผลไม้ของเกษตรกรที่อำเภอครบุรีเป็นครั้งแรก และเมื่อมาเห็นความสำเร็จอย่างนี้ ถือเป็นเรื่องที่น่าส่งเสริมเป็นอย่างมาก ซึ่งก่อนหน้านี้โดยทั่วไปหากพูดถึงจังหวัดนครราชสีมา เราก็จะนึกถึงไร่มันสำปะหลัง อ้อย เป็นอย่างแรก 
    

แต่ความจริงแล้ว เกษตรกรสามารถปรับเปลี่ยนมาเป็นสวนผสมได้แล้ว อย่างเช่นสวนเสวยผลทองแห่งนี้  ถือเป็นตัวอย่างของเกษตรกรที่มองการณ์ไกล พลิกฟื้นปรับเปลี่ยนพื้นที่จากไร่มันสำปะหลังมาปลูกผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียนที่กำลังให้ผลผลิตอย่างนี้ในขณะนี้  ซึ่งทำให้เห็นแล้วว่าในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา มีหลายอำเภอที่สามารถจะส่งเสริมให้มีการเพาะปลูกเป็นสวนผสมได้ ซึ่งทางจังหวัดและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องก็ได้ดำเนินการส่งเสริมในทุกช่องทางอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการคัดเลือกสายพันธุ์ การให้องค์ความรู้  โดยเฉพาะในส่วนของทุเรียนและเงาะ ที่เป็นที่ชื่นชอบอย่างมากของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ  
    

ในขณะที่ทางภาครัฐหลายส่วนก็ให้การสนับสนุนในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน ถนนหนทาง ไฟฟ้าการเกษตร ที่เข้าถึงได้อย่างครอบคลุม  จึงอยากฝากถึงพี่น้องเกษตรกรว่า การปลูกพืชเกษตรเชิงเดี่ยวนั้น บางครั้งไม่คุ้มค่ากับการลงทุน เพราะฉะนั้น หากพื้นที่ใดมีศักยภาพมากพอที่จะปรับเปลี่ยนมาเป็นสวนผสมได้ ก็ให้ปรึกษากับทางสำนักงานเกษตรใกล้บ้าน  ว่าสามารถจะปลูกอะไรเพิ่มได้บ้าง เพื่อที่จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
    

ระหว่างการเยี่ยมชมสวนในครั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ชิมผลไม้สด ๆ จากสวนตาเสวย ที่กำลังให้ผลผลิตอยู่ในขณะนี้ ทั้งเงาะและทุเรียน โดยเฉพาะทุเรียน"หลงครบุรี" ที่หลายคนกำลังอยากชิมกันอยู่ในขณะนี้ เพราะถือว่าเป็นสวนแรก ๆ ในนครราชสีมาที่เริ่มให้ผลผลิต พร้อมกับยืนยันว่า เงาะที่อำเภอครบุรี รสชาติดี หวาน ร่อน อร่อย และทุเรียน"หลงครบุรี" ก็มีรสชาติหอมหวาน ไม่แพ้ทุเรียนหลงลับแลต้นฉบับแน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• วิ่งฉิว ทล.ขยายถนน 4 เลน สาย อ.สีดา - อ.บัวใหญ่ นครราชสีมา บูมขนส่งแดนเหนือ-อีสาน
• โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เตรียมฉีดวัคซีนโควิดแอสตราเซนเนก้า ให้กลุ่มใดบ้างเช็กที่นี่
• ขยาย6เลน ทางหลวง “พิมาย-หินดาด” คืบ 80% เสริมท่องเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์ คึก
• ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ 100 ล้านบาท
• ธ.ก.ส. นครราชสีมา พร้อมโอนเงินประกันรายได้ข้าว จำนวน 1.8 พันล้าน