จากการรวบรวมข้อมูลความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา 24-28 เดือนก.พ. 68 โดยตลอดการซื้อขาย 5 วันทำการ ตลาดหุ้นไทยร่วงไปแล้ว 4 วันทำการ หนักสุดวันที่ 25 ก.พ. ที่ดิ่งลงไปกว่า 29.46 จุด มีเพียงวันเดียว คือ 26 ก.พ. 68 ที่ตลาดหุ้นไทยพลิกกลับมาแดนเขียวได้ บวกไป 24.75 จุด กลับมายืนที่ดัชนีระดับ 1,206.39 จุด
สาเหตุจากการที่คณะกรรมการฯ มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 0.25% เป็น 2.00% ต่อปี โดยให้มีผลทันที เพื่อให้ภาวะการเงินสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และเสถียรภาพระบบการเงิน รวมทั้งรองรับความเสี่ยงด้านต่ำที่ชัดเจนขึ้น เป็นเรื่องที่สร้างแรงเซอร์ไพรส์ให้กับตลาดหุ้นไทยเด้งกลับมาบวกได้ 25 จุด
ทั้งนี้ SET Index เปิดการซื้อขายต้นสัปดาห์วันที่ 24 ก.พ. 68 ที่ระดับ 1,242.50 จุด โดยในวันสุดท้ายของสัปดาห์ 28 ก.พ. 68 ดัชนีตลาดหุ้นไทยร่วงลงไปทำโลวสุดที่ระดับ 1,186.36 จุด ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญในรอบนี้ ก่อนที่จะเด้งขึ้นมาปิดตลาดที่ระดับ 1,203.72 จุด ในวันสุดท้ายของสัปดาห์
นับตั้งแต่วันที่ 24-28 ก.พ. 68 รวมแล้วดัชนีตลาดหุ้นไทยร่วงไปแล้วหว่า 38.78 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -3.12% จากดัชนีเปิดตลาดซื้อขายวันแรกของสัปดาห์ โดยมูลค่าการซื้อขายรวมอยู่ที่ 285,754.98 ล้านบาท หรือมีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยของ 5 วันทำการอยู่ที่ 57,151.00 ล้านบาท
ขณะที่มูลค่าการซื้อขายตามประเภทนักลงทุนตลอดช่วง 5 วันทำการของสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า กลุ่มนักลงทุนภายในประเทศและนักลงทุนสถาบัน มีสถานะซื้อสุทธิ รวม 12,657.79 ล้านบาท แบ่งเป็น 11,687.33 ล้านบาท และ 960.46 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนต่างชาติ และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ มีสถานะขายสุทธิ รวม 12,657.78 ล้านบาท แบ่งเป็น 10,231.76 ล้านบาท และ 2,426.02 ล้านบาท ตามลำดับ
โดยทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ชี้แจงว่า การปรับตัวลดลงของ SET Index นั้น มาจาก 2 ปัจจัยหลักๆ ได้แก่ ความกังวลเรื่องสงครามการค้าที่อาจจะรุนแรงขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศที่จะเก็บภาษีนำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในวันที่ 4 มี.ค. 68 และจะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 10% มีผลวันเดียวกัน
ขณะเดียวกันยังมาจากความกังวลว่าตลาดหุ้นไทยจะได้รับผลกระทบจาก MSCI Rebalance ซึ่งมีผลต่อดัชนีราคาหุ้นโดยรวมวันที่ 28 ก.พ. 68 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี การปรับตัวลดลงของกัชนีตลาดหุ้นไทยนั้น เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับดัชนีตลาดหุ้นภูมิภาค เช่น Nikkei, Hang Seng และ KOSPI เป็นต้น