ค่าเงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 33.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 34.17 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า นอกจากเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นสอดคล้องกับภาพรวมของสกุลเงินเอเชียอื่น ๆ แล้ว ยังมีอานิสงส์เพิ่มเติมจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่ การปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ยังคงจำกัดการฟื้นตัวของค่าเงินดอลลาร์ฯ
อนึ่ง เงินบาทแข็งค่าขึ้น แม้ว่าทิศทางฟันด์โฟลว์จะเป็นฝั่ง Outflows ในวันนี้ โดนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทย 884 ล้านบาท และ 2,271 ล้านบาท ตามลำดับ
ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 4 มีนาคม 2568 จากเว็บไซต์ ธปท. อยู่ที่ -22.32 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -19.12 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 33.60-34.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สุนทรพจน์ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ต่อสภาคองเกรสของสหรัฐฯ สถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้า ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก และสัญญาณฟันด์โฟลว์ในตลาดการเงินไทย
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.พ. ของจีน ญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษ รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP ดัชนี ISM และ PMI ภาคบริการเดือนก.พ. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนม.ค. และรายงาน Beige Book ของเฟด