“สมชัย-สุรพล” คู่ชิงประธานบอร์ดธปท. 28 ก.พ.68 ชี้ขาด

เป็นประเด็นร้อนแรงต่อเนื่องสำหรับการคัดเลือกประธานคณะกรรมการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)หรือ แบงก์ชาติ หลังกระทรวงการคลังเสนอชื่อ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นคู่ชิงกับนายกุลิศ สมบัติศิริ อดีตปลัดกระทรวงพลังงานและนายสุรพล นิติไกรพจน์ นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และกรรมการอิสระ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ซึ่งถูกเสนอโดยธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)

แม้นายกิตติรัตน์จะถูกมองว่า เป็นบุลคลที่ใกล้ชิดกับพรรคเพื่อไทย ทำให้ทั้งนักวิชาการ สังคมตั้งคำถามว่า ถึงความเหมาะสมว่า จะเป็นการแทรงแซงการทำงานและครอบงำแบงก์ชาติหรือไม่ แต่ที่สุดคณะกรรมการสรรหาคัดเลือกประธาน ธปท.ที่มีนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ เป็นประธานก็ลงมติคัดเลือกนายกิตติรัตน์ให้กระทรวงการคลัง เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติต่อไป

แต่ที่สุดนายกิตติรัตน์ก็ไม่สามารถไปถึงฝั่งฝันได้ เมื่อที่ประชุมคณะกรรมการกฤษฎีการ่วม 3 คณะมีเสียงข้างมากเห็นว่า นายกิตติรัตน์ ขาดคุณสมบัติการดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ เนื่องจากตำแหน่งประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ที่นายกิตติรัตน์ได้รับการแต่งตั้งในสมัยรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ถือเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เนื่องจากมีส่วนไปเกี่ยวข้องกับการกำหนดนโยบาย

คณะกรรมการสรรหาฯ ต้องกลับมาทำหน้าที่ใหม่ แม้ว่า นายปรเมธี วิมลศิริ ที่หมดวาระไปตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.2567  และยังครบวาระการรักษาการ 90 วันไปเมื่อ 16 ม.ค.2568 ปัจจุบันผู้ว่าการ ธปท.คนปัจจุบัน นายเศรษฐพุฒ สุทธิวาทนฤพุฒิ ทำหน้าที่รักษาประธานบอร์ดธปท.แทน

ล่าสุดเริ่มมีความชัดเจน เมื่อกระทรวงการคลัง เสนอชื่อ ดร.สมชัย สัจจพงษ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานบอร์ด ธปท. ขณะที่ธปท.ยืนยันชื่อ ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ ศาสตราจารย์ประจำสาขากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เพียงคนเดียว เพราะก่อนหน้านั้นนายกุลิศถูกติงคุณสมบัติเช่นเดียวนายกิตติรัตน์

เปิดประวัติว่าที่ประธานบอร์ดธปท.

สำหรับดร.สมชัย สัจจพงษ์ ถือว่าเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์ และความรู้ในด้านการคลัง และเศรษฐศาสตร์ จบการศึกษาในระดับปริญญาตรีจากคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนที่จะได้รับปริญญาโท และปริญญาเอกจาก Ohio State University สหรัฐอเมริกา ในช่วงปี 2558-2561

 ดร.สมชัย มีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายทางการคลัง และดูแลเศรษฐกิจของประเทศ ในฐานะผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.)  อธิบดี กรมศุลกากร และปลัดกระทรวงการคลัง 

แต่หลังถูกครม. มีมติโยกจากปลัดกระทรวงการคลังไปนั่งเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) แทนนายปรเมธี วิมลศิริ ที่ย้ายไปเป็นปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ยังไม่ทันข้ามวัน ดร.สมชัยประกาศขอลาออกจากราชการทันที

หลังลาออกจากราชการ ดร.สมชัย ยังเคยดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการบริหารและมีบทบาทในหลายบริษัทเช่น บริษัท ไทยประกันภัยจำกัด (มหาชน) ในตำแหน่งประธานกรรมการและกรรมการบริหารการลงทุน บริษัท เอสโซฟินจำกัด และบริษัทโปรเช็กเกอร์จำกัด รวมถึงยังเป็นกรรมการบริษัทอื่นๆ อีกหลายแห่ง

ขณะที่ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ จบการศึกษาปริญญานิติศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 2) จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลังจากนั้นศึกษาต่อในระดับสูงที่ฝรั่งเศส ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตจากมหาวิทยาลัย Robert Schuman และประกาศนียบัตรต่างๆ ในสาขากฎหมาย และการบริหารงานภาครัฐ

 ด้านการทำงาน สุรพลเคยดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (พ.ศ. 2547-2553) และคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (พ.ศ. 2544-2547) นอกจากนี้ยังเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริษัทอสมทจำกัด (มหาชน), บริษัทปตท.จำกัด (มหาชน), และบริษัทกรุงเทพธนาคมจำกัด

 ปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ประจำสาขากฎหมายมหาชน ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานศาลปกครอง

เมื่อได้รับรายชื่อจากทั้ง 2 ฝ่ายเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานสรรหาฯระบุว่า คณะกรรมการจะมีการประชุมกันในวันที่ 28 ก.พ.68 นี้ เพื่อคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมดำรงตำแหน่งประธาน ธปท. และคาดว่า ขั้นตอนการคัดเลือกประธาน ธปท.จะแล้วเสร็จภายในเดือนนี้

วิเคราะห์ หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 4,070 วันที่ 13 - 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568