รัฐชงสถานบันเทิงครบวงจร บจ. สนามบิน โรงแรม ค้าปลีก แบงก์ รับอานิสงส์

24 ม.ค. 2568 | 07:00 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ม.ค. 2568 | 07:43 น.

กูรูส่องรัฐฯ ชงโปรเจ็กต์ "สถานบันเทิงครบวงจร" กระตุ้นลงทุน 1 แสนล้านล้าน เปิดโผ บจ.ไทย สนามบิน โรงแรม ค้าปลีก แบงก์ เรียงคิวรับอานิสงส์

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยเหลือเพียงระดับ 3% หรือบางปีก็อาจไม่ถึง อย่างในปี 68 คาดการณ์จะขยายตัวในกรอบ 2.5 -2.9% นับว่าต่ำกว่าช่วงก่อนหน้านี้ 5 ปี ที่เศรษฐกิจไทยเคยขยายตัวระดับ 4%

จึงเป็นผลให้รัฐบาลต้องพยามหาวิธีกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ แหล่งท่องเที่ยวครบวงจร (Entertainment Complex) ที่ไม่ได้มีเพียง กาสิโน (Casino) เท่านั้น แต่ภายในจะประกอบไปด้วยธุรกิจบันเทิงครบวงจร อาทิ สวนสนุก โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว และอื่นๆ

จากคาดการณ์ของรัฐบาลเชื่อว่าจะเกิดการลงทุนเป็นมูลค่า 1 แสนล้านบาท และรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 1.19 -2.38 แสนล้านบาท และเป็นอีกปัจจัยหนุนให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาแม้จะไม่ใช่ช่วงท่องเที่ยว (Low Season) ก็ตาม (ช่วง มี.ค.-ต.ค.) พร้อมกับจะเร่งการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่ 4.4 หมื่นบาท/คน/ทริป เป็น 6.6 หมื่นบาท/คน/ทริป

ด้านรัฐบาลจะเก็บภาษีได้มากขึ้นอีก 1.2-3.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะนำไปพัฒนาประเทศ (โครงสร้างพื้นฐาน ดูแลสังคม การศึกษา) สำหรับ Model การทำ Entertainment Complex จากต่างประเทศ พบว่า เวียดนามสร้างรายได้ได้ที่ 1.8 แสนล้านบาท/ปี สิงคโปร์ 4.3 แสนล้านบาท/ปี มาเก๊าได้มากถึง 1.2 ล้านล้านบาท/ปี

สนามบิน (AOT) ได้ประโยชน์เจ้าแรก

จากประเด็นดังกล่าวนั้น ทางฝ่ายมองว่ามิติเศรษฐกิจที่รัฐบาลประเมินว่าจะสร้างรายได้ราว 1.2-2.4 แสนล้านบาท ถือว่ายังเป็นสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับมูลค่าเศรษฐกิจไทยที่ 18 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นเพียง 1.3% ของ GDP

หรือหากเทียบกับรายได้จากการท่องเที่ยวในปี 67 พบว่าอยู่ที่ 1.67 ล้านล้านบาท ก็จะคิดเป็น 14% ก็ถือเป็นตัวเลขที่มีนัยยะมากขึ้น แต่ทั้งนี้ก็เป็นไปได้ว่าระบบ Multiplier จะทำงานและช่วยให้รายรับจริงต่อ GDP อาจมากกว่าที่ประเมินก็เป็นไปได้ 

ในแง่ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) หากประเมินโดยเบื้องต้นก็เชื่อว่ากิจการที่จะได้ประโยชน์เจ้าแรกคงเป็น สนามบิน (AOT) ทั้งนี้ ในปัจจุบันยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า Entertainment Complex จะเปิดที่ใด เพราะหากไปเปิดจังหวัดอื่นที่ AOT ไม่ได้บริหารสนามก็อาจไม่ได้ประโยชน์มาก

แต่ก็เชื่อว่าจะเกิดการขนส่ง (Transit) กันระหว่างสนามบิน ซึ่ง AOT ยังเป็นผู้ได้ประโยชน์ แต่หาก Entertainment Complex เปิดทำการในพื้นที่ ตะวันออกกลาง เชียงใหม่ ภูเก็ต กรุงเทพ หาดใหญ่ AOT จะเป็นผู้ได้ประโยชน์เต็มๆ เพราะรับบริหารสนามบินในพื้นที่ดังกล่าว

ธุรกิจโรงแรมจะเป็นกลุ่มได้ประโยชน์ถัดมา

ส่วนธุรกิจโรงแรมจะเป็นกลุ่มได้ประโยชน์ถัดมา ได้แก่ ERW CENTEL และ MINT แต่ก็ต้องดูพื้นที่อีกเช่นกันเพราะส่วนใหญ่แล้วโรงแรมใน บจ. มักมีโรงแรมตามเมืองท่องเที่ยวหลัก เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต กรุงเทพ หัวหิน และ พัทยา เป็นต้น

อีกกลุ่มที่จะได้ประโยชน์คือกลุ่มค้าปลีก อาทิ BJC CPALL GLOBAL และ DOHOME จากรายได้ของประชาชนที่จะมากขึ้นพร้อมกับการจับจ่ายของนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ อย่าง BBL KBANK KTB SCB และ TTB ก็จะเป็นอีกกลุ่มที่ได้ประโยชน์ผ่านการขอสินเชื่อที่จะมากขึ้นตามทิศทางเศรษฐกิจและหากเศรษฐกิจดีขึ้น ภาระสำรองหนี้ก็มีแนวโน้มลดลงหนุนผลประกอบการ

ส่วนบริษัทอื่นๆที่มีกระแสข่าวว่ามีแผนจะลงทุนใน Entertainment Complex ได้แก่ VGI และ AWC แต่ไม่ว่าอย่างไร ปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนที่แน่นอนประกอบกับเป็นไปได้ที่จะต้องผ่านกฎหมายต่างๆอีกมาก ดังนั้น ความเห็นข้างต้นจึงเป็นเพียงการประเมินในเบื้องต้นเท่านั้น จึงแนะนำนักลงทุนค่อยๆติดตามความคืบหน้าจากนี้