KEY
POINTS
สถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ หนึ่ง ในนโยบายของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมทั้งส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น (Man-made Destinations) เช่น สวนน้ำ สวนสนุก ศูนย์การค้า สถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) นำคอนเสิร์ต เทศกาล และการแข่งขันกีฬาระดับโลกมาจัดในประเทศไทย
ท่ามกลางความกังวลของหลายหน่วยงาน รวมทั้งประชาชนที่มองว่าการผลักกันนโยบายเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์เป็นการนำแหล่งท่องเที่ยว ศูนย์การค้ามาบังหน้าเท่านั้น ซึ่งจะกลายเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการพนันให้ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้เยาวชนลุ่มหลง เมามัวไปกับสิ่งเหล่านี้ได้ง่าย
ล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติในหลักการ ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ “ENTERTAINMENT COMPLEX” โดยมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกานำไปปรับปรุงรายละเอียด ก่อนส่งต่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
จากการที่ครม.อนุมัติในเรื่องนี้สร้างความฮือฮาไม่น้อย โดยเฉพาะการพิจารณานำที่ดินที่มีศักยภาพหลายแห่งของหน่วยงานต่างๆของภาครัฐเพื่อสร้างอาณาจักรเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ซึ่งที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน เนื่องจากในปัจจุบัน รฟท.มีที่ดินที่มีศักยภาพกว่า 38,000 ไร่
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในประเด็นที่จะนำที่ดินของรฟท.มาพัฒนาเป็นเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์นั้น มองว่า ที่ดินที่มีศักยภาพสอดรับกับเรื่องนี้มีหลายแห่ง เช่น สนามบินอู่ตะเภา ท่าเรือคลองเตย ฯลฯ ซึ่งมองว่าที่ดินของรฟท.ยังไม่ได้เป็น 1 ในแคนดิเดตของเรื่องนี้
“เชื่อว่าอาจไม่ได้ดำเนินการในเร็วๆนี้ที่จะนำที่ดินรฟท.มาพัฒนาเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ซึ่งอาจจะเป็นระยะหลังๆ ส่วนการเดินหน้าในเรื่องดังกล่าวต้องแก้กฎหมายรฟท.หรือไม่นั้น ปัจจุบันรฟท.มีบริษัทลูกหรือบริษัทเอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) มีหน้าที่ดูแลบริหารที่ดินของรฟท.ทั้งหมด โดยเปิดกว้างในการนำที่ดินไปพัฒนาหารายได้เพื่อให้เกิดความคล่องตัว ซึ่งไม่จำเป็นต้องแก้กฎหมาย” นายวีริศ กล่าว
นายวีริศ กล่าวต่อว่า แนวโน้มในอนาคตที่จะนำที่ดินรฟท.ให้บริษัทเอสอาร์ทีฯศึกษาพัฒนาพื้นที่เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์
เรื่องนี้ยังไม่มีคำตอบ เพราะต้องรอดูความชัดเจนจากนโยบายภาครัฐก่อน ซึ่งปัจจุบันที่ดินรฟท.ที่ต้องแก้ปัญหามีหลายประเด็นไม่ว่าจะเป็น การต่อสัญญาเช่าที่ดิน การแก้ปัญหาต่างๆบนที่ดินรฟท. ฯลฯ
ส่วนกรณีที่เอกชนต้องการเช่าที่ดินของรฟท.เพื่อพัฒนาเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์นั้น เอกชนชนต้องหารือกับบริษัทเอสอาร์ทีฯ ก่อน
หากข้อเสนอของเอกชนสามารถดำเนินการได้ต้องนำเรื่องนี้เสนอต่อคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.พิจารณาเพื่อทราบด้วย ซึ่งบริษัทเอสอาร์ทีฯจะต้องนำเรื่องนี้ไปศึกษาด้วย
ฟากนายสราวุธ สราญวงศ์ รักษาการประธาน สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศ (สร.รฟท.) กล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เรื่องนี้ต้องพิจารณาหลักเกณฑ์การพัฒนาเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ก่อน ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องแหล่งอบายมุข ทางสหภาพรถไฟฯไม่เห็นด้วย
ปัจจุบันที่ดินของรฟท.เป็นการใช้ที่ดินเพื่อการเดินรถและการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ หากจะนำที่ดินรฟท.มาใช้ในประเด็นดังกล่าวคงไม่เหมาะสม หากภาครัฐมีนโยบายให้ศึกษาที่ดินรฟท.นั้น
ทั้งนี้คงต้องพิจารณาถึงงบประมาณจากการศึกษา เพราะการนำงบประมาณมาศึกษาเรื่องเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ถือว่าเป็นการใช้งบประมาณที่เปล่าประโยชน์
นอกจากนี้ต้องพิจารณาถึงหลักศีลธรรม แหล่งการพนันด้วย “ผมมองว่าการพัฒนาเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์มีหลายหน่วยงานต่างๆที่สามารถดำเนินการได้ หากจะนำที่ดินรฟท.มาดำเนินการด้วยจะต้องแก้กฎหมายหรือไม่นั้น
ที่ผ่านมามีการแก้กฎหมายของรฟท.แล้วในการนำที่ดินมาบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์เพื่อหารายได้เข้าองค์กร ซึ่งจะต้องพิจารณาจากกฎหมายก่อนว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่” นายสราวุธ กล่าว
หลังจากนี้คงต้องจับตาว่านโยบายรัฐบาลนี้จะผลักดันนำที่ดินรฟท.มาศึกษาเพื่อพัฒนาเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ได้หรือไม่ หากสามารถดำเนินการได้ เชื่อว่ามีหลายฝ่ายคัดค้านเป็นแน่
เมกะโปรเจ็กต์ หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 4,064 วันที่ 23 - 25 มกราคม พ.ศ. 2568