สส.เพื่อไทย กางเหตุผล "สถานบันเทิงครบวงจร" โอกาสใหม่เศรษฐกิจไทย

19 ม.ค. 2568 | 18:29 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ม.ค. 2568 | 18:34 น.

"‘อัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สส.เพื่อไทย’ กางเหตุผล ถึงเวลาต้องยอมรับกาสิโนล้อมไทย เงินไหลออกปีละพันล้าน ดันเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์สร้างเศรษฐกิจใหม่ พร้อมมาตรการควบคุมเข้ม

นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ ส.ส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะหนึ่งในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับการผลักดันร่าง พ.ร.บ.สถาบันเทิงครบวงจร หรือ “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” โดยชี้ให้เห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยต้องยอมรับความจริงเกี่ยวกับการบริหารจัดการการพนันในบริบทที่เหมาะสมและถูกต้องตามกฎหมาย

สส.เพื่อไทย กางเหตุผล \"สถานบันเทิงครบวงจร\" โอกาสใหม่เศรษฐกิจไทย

อัครนันท์ ระบุว่า ประเทศไทยถูกล้อมรอบด้วยคาสิโนที่ถูกกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเมียนมาร์ (Myanmar) ที่มี 14 แห่ง กัมพูชา (Cambodia) 21 แห่ง ลาว (Laos) 4 แห่ง มาเลเซีย (Malaysia) 1 แห่ง รวมถึงสิงคโปร์ (Singapore) อีก 2 แห่ง โดยเงินจำนวนมหาศาลของคนไทยไหลออกนอกประเทศทุกปี

ขณะเดียวกัน ประเทศไทยยังปล่อยให้มีบ่อนเถื่อนเล็ก ๆ ในพื้นที่ต่าง ๆ ที่ไม่มีการควบคุมดูแลอย่างมีประสิทธิภาพ

“วันนี้ถึงเวลาที่ต้องเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูดบนโต๊ะ และทำให้ถูกต้อง มากกว่าการมองแค่ว่าเป็นเรื่องมอมเมาประชาชน เราต้องยอมรับว่าคาสิโนคือโอกาสทางเศรษฐกิจ ไม่ใช่ปัญหาที่ต้องปิดตาไม่มอง” นายอัครนันท์กล่าว พร้อมเสริมว่า การผลักดันโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่ใช่เพียงเพื่อการพนันเท่านั้น แต่เป็นการสร้างศูนย์รวมความบันเทิงและการท่องเที่ยวที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในหลายมิติ

นายอัครนันท์ยังยกตัวอย่างกรณีของลาสเวกัส (Las Vegas) ในสหรัฐอเมริกาที่สามารถเปลี่ยนพื้นที่ทะเลทรายให้กลายเป็นเมืองเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ซึ่งนอกจากคาสิโนยังมีโรงแรม ร้านอาหารระดับ 5 ดาว และคอนเสิร์ตจากศิลปินระดับโลก เช่น Bruno Mars และ Celine Dion ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก ส่งผลให้เกิดการสร้างงานและสร้างรายได้มหาศาลในทุกปี

“ต้องเข้าใจว่าคาสิโน เพียงอย่างเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาความยากจนได้ แต่เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เป็นเพียงหนึ่งในเครื่องมือที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งยังช่วยลดปัญหาการเงินไหลออกนอกประเทศ” นายอัครนันท์กล่าว พร้อมชี้ว่าการผลักดันโครงการนี้จะต้องมาพร้อมกับมาตรการควบคุมที่เข้มงวดเพื่อป้องกันปัญหาสังคม เช่น การติดการพนัน (Gambling Addiction) การฟอกเงิน (Money Laundering) และการจัดการคาสิโนผิดกฎหมาย (Illegal Casino Operations) “นายอัครนันท์

นอกจากนี้ นายอัครนันท์ทยังเสนอว่าการพัฒนาโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ควรผูกโยงกับการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative Industry) เช่น การจัดงานแสดงระดับโลก (Global Events) การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม (Cultural Tourism) และการจัดกิจกรรมที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เพื่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจในวงกว้าง

นายอัครนันท์ ปิดท้ายว่า ประเทศไทยต้องเปิดกว้างและมองไปข้างหน้า พร้อมย้ำว่าการพัฒนาโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เป็นโอกาสสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม แต่ต้องมาพร้อมกับการบริหารจัดการที่โปร่งใส (Transparency) และยั่งยืน (Sustainability) เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ