นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วันศุกร์ที่ผ่านมาฝั่งสหรัฐฯ ไม่ได้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ แต่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ Dow Jones ยังคงปรับขึ้นต่อเนื่อง ปิดบวก 0.78% ปัจจัยหนุนหลักมาความหวังดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ตามในวันศุกร์ Bond Yield สหรัฐฯ กลับมาฟื้นตัวเล็กน้อย ซึ่งไม่ได้มีปัจจัยหนุนใดๆ คาดว่าเป็นเพียงแรงขายปกติในตราสารหนี้
สัปดาห์นี้นักลงทุนจะให้น้ำหนักกับพิธีสาบานตนของ ทรัมป์ ที่จะทราบผลทางการในวันอังคารช่วงเช้าตามเวลาไทย สิ่งที่นักลงทุนจะจับตาได้แก่การกีดกันการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับนานาประเทศ ทั้งนี้ ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ทรัมป์ ได้ออกมาโพสต์ผ่าน Truth social ว่าตนได้พูดคุยกับประธานาธิบดีจีน การพูดคุยเป็นไปได้ด้วยดีและจะหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกันโดยเริ่มทันที ซึ่งเราได้พูดคุยกันหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นการค้า รวมไปถึงประเด็น Tiktok ร่วมด้วย
พร้อมย้ำจะทำทุกอย่างเพื่อให้โลกพบกับความสงบและปลอดภัย มองเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นโลกในระยะสั้น แต่อย่างไรก็ตามในอดีตที่ผ่านมาช่วงปี 18 , 19 ทรัมป์ ก็มักพูดประโยคในทำนองนี้ และหลังจากนั้นก็มักแถลงต่อว่าการเจรจาต่างๆ ไม่คืบหน้า และตลาดหุ้นก็กลับมาปรับฐาน
สัปดาห์นี้นอกจากพิธีสาบานตนของ ทรัมป์ แล้วแนะรอติดตามดัชนี PMI ภาคผลิตและบริการเบื้องต้นของฝั่งยุโรปและสหรัฐฯ ในคืนวันศุกร์รวมไปถึงยอดขายบ้านมือสอง Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 4.19 ล้านหลังคาเรือน หากต่ำกว่าคาดการณ์จะเป็นปัจจัยหนุน
ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 0.6% แต่อย่างไรก็ตามยังคงปรับขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อรัสเซียกดดันภาวะอุปทาน
ส่วนในประเทศไร้ปัจจัยที่ต้องติดตามเพราะตัวเลขสำคัญรอประกาศในช่วงสัปดาห์ถัดไป ด้านตลาดหุ้นไทยในวันศุกร์อ่อนแอกว่าที่คาดไว้และติดลบสวนทางกับเอเชีย ประเมินว่าเป็นผลจากความเชื่อมั่นที่ทยอยลดลงเพราะเกิดปัจจัยหุ้นเฉพาะตัวปรับลง อาทิ RS , MASTER และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะมีอีกหรือไม่ ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในวันศุกร์ 1.2 พันล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิอีก 284 ล้านบาท
แม้ตลาดหุ้นไทยจะเริ่มมีระดับ Valuation ที่ถูกก็ตาม สัปดาห์นี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1,325-1,360 จุด ทั้งนี้ ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนยังมองระดับดัชนีปัจจุบันเป็นโอกาสสะสมสำหรับการลงทุนระยะกลาง - ยาว เน้นที่หุ้นขนาดใหญ่และเป็นผู้นำอุตสาหกรรม อาทิ ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL CPAXT HMPRO) ส่งออก (ITC TU) ธนาคาร (BBL KBANK KTB) และ การเงิน (MTC SAWAD) เป็นต้น