ค่าเงินบาทปิดตลาดวันที่ 21ก.พ.ที่ระดับ 33.60 บาทต่อดอลลาร์
ค่าเงินบาทลดช่วงบวกลงบางส่วนตามการย่อตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก และเงินเยนที่อ่อนค่ากลับมาเล็กน้อยหลังผู้ว่าการ BOJ ส่งสัญญาณยังไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย กรอบการเคลื่อนไหวในสัปดาห์หน้า 24-28 ก.พ. 68 ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 33.20-34.00 บาทต่อดอลลาร์
ค่าเงินบาทปิดตลาดวันที่ 21ก.พ.ที่ระดับ 33.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 33.66 บาทต่อดอลลาร์ฯ เงินบาทยังคงแข็งค่ากว่าระดับปิดตลาดวานนี้
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทยังคงแข็งค่ากว่าระดับปิดตลาดวานนี้ แต่กรอบการแข็งค่าเริ่มจำกัดและเงินบาทลดช่วงบวกลงบางส่วนตามการย่อตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก และเงินเยนที่อ่อนค่ากลับมาเล็กน้อยหลังผู้ว่าการ BOJ ส่งสัญญาณว่า BOJ ยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
นอกจากนี้ ทิศทางฟันด์โฟลว์ก็เป็นปัจจัยลบของเงินบาทในช่วงบ่ายด้วยเช่นกัน สำหรับทิศทางฟันด์โฟลว์ในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทย 689.45 ล้านบาท และ 3,299 ล้านบาทตามลำดับ
ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 จากเว็บไซต์ ธปท. อยู่ที่ -20.48 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -17.30 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้า (24-28 ก.พ. 2568) ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 33.20-34.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมกนง. (26 ก.พ.) ตัวเลขการส่งออกเดือนม.ค. ของไทย สัญญาณและ
รายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการทางภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และทิศทางฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย
และอัตราเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนีราคา PCE/Core PCE เดือนม.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/2567 (Prelim.) รวมถึงตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์