ไทยพาณิชย์ฟื้นเชื่อมั่นให้ลูกค้าปลอดภัย “บัญชีม้า-แอปดูดเงิน”

18 ก.พ. 2566 | 07:36 น.

ไทยพาณิชย์ชี้โจทย์แรกต้องฟื้นความเชื่อมั่นให้ลูกค้า โดยเฉพาะความปลอดภัยจาก” บัญชีม้า-แอปดูดเงิน”ก่อนก้าวไปสู่ “ดิจิทัลแบงก์กิ้ง”ย้ำผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินยังต้องอาศัยความไว้ใจของลูกค้าผ่านความสัมพันธ์ระยะยาว

เมื่อวันที่ 17ก.พ.2566 ธนาคารไทยพาณิชย์กำหนดยุทธศาสตร์ เป็นดาวเหนือนำทางธุรกิจภายใต้แผน 3ปี  โดยโฟกัสเป็น “ดิจิทัลแบงก์อันดับหนึ่งด้านการบริหารความมั่งคั่ง”ปรับโครงสร้างภายในผนึกงานทางด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี่เข้าด้วยกัน

 

นายกฤษณ์   จันทโนทก  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์เปิดเผยว่า ภายใต้แผน 3ปีของธนาคารไทยพาณิชย์ คือ ระหว่างปี 2566-2568นั้น ธนาคารได้จัดเตรียมเม็ดเงินลงทุนด้านเทคโนโลยีภาพรวมจำนวน 7,000-10,000ล้านบาทเพื่อจะพัฒนาแพลตฟอร์มให้ตอบโจทย์ในการต่อยอดฐานข้อมูล(DATA)ต่อยอดบริการทำประโยชน์อย่างสูงสุดกับลูกค้า

 

ส่วนสำคัญคือ จะทำให้แพลตฟอร์มมีความปลอดภัยและมั่นคง โดยรวมถึงประเด็นการโจรกรรมหรือแอปพลิเคชั่นดูดเงิน   ทั้งนี้  หากลูกค้ามีความกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล ซึ่งธนาคารต้องทำหน้าที่สร้างความเชื่อมั่นและถือเป็นโจทย์แรกที่จะทำก่อนจะไปสู่ “ดิจิทัลแบงก์กิ้ง”

อย่างไรก็ตาม รูปแบบหรือแนวทางป้องกันนั้น ที่สำคัญคือ การพัฒนาหรือยกระดับเทคโนโลยีที่ใหม่ที่สุด  เพราะเทคโนโลยีจะพัฒนาก้าวหน้าตลอดเวลา แต่ประเด็นปัญหาปัจจุบันบางเรื่องอาจจะเกิดจากลูกค้ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ 

บางเรื่องอาจจะเป็นช่วงว่างของระบบ   แต่เท่าที่พบส่วนใหญ่ในปัจจุบันธนาคารในองค์รวม คือ ไม่ได้หมายถึงธนาคารใดธนาคารหนึ่งอาจจะยังให้ความรู้กับลูกค้าไม่ครบถ้วนในการใช้แอปพลิเคชั่นให้มีความเสี่ยงน้อยที่สุด

ดังนั้นในเรื่องนี้ธนาคารพยายามออกนโยบาย และประกาศแนวทางให้มีการใช้แอปพลิเคชั่นให้เกิดประสิทธิภาพที่สุด ซึ่งจะมีประกาศแนวทางออกมาอย่างเรื่อยๆ   เช่น ไม่แชร์พาสเวิร์ด(password)  หรือกรณีการฟิชชิ่ง(Phishing Scams)นั้น  เทคโนโลยีแก้ไม่ได้  ฉะนั้นการให้ความรู้กับผู้ใช้งานจึงมีความสำคัญ  และอีกบริบทที่ธนาคารไทยพาณิชย์ได้พัฒนาคือ  ให้การใช้งานเป็น Touch Screenเป็นต้น

 

“ ทั้งในระดับฝ่ายปฎิบัติการกลุ่มงานเทคโนโลยี กลุ่มงานดิจิทัลแบงก์กิ้ง หรือทีมงานผู้จัดการใหญ รวมทั้งตัวผม ทุกวันเราพูดคุยเรื่องข้อมูลและความปลอดภัยของลูกค้า   การดูแลรักษาฐานข้อมูลเป็นอันดับหนึ่งและเป็นเรื่องที่คุยกันอย่างจริงจัง แม้กระทั้งพันธมิตรมากมายได้มีการลงทุนค่อนข้างเยอะเพื่อจะทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจ เพราะหากลูกค้าไม่มั่นใจในระบบบริการของธนาคารก็อย่าไปหวังว่าลูกค้าจะลงทุนหรือทำธุรกรรม”

ไทยพาณิชย์ฟื้นเชื่อมั่นให้ลูกค้าปลอดภัย “บัญชีม้า-แอปดูดเงิน”

นายกฤษณ์กล่าวว่า อุตสาหกรรมทางการเงิน ภายหลังวิกฤติโควิด-19 เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายด้านเช่น ธนาคารและบริษัทเทคโนโลยีแข่งขันพัฒนาพยายามจะตอบโจทย์บริการด้านการเงินแบบดิจิทัล  ขณะที่ลูกค้าต้องการใช้บริการที่มีประสิทธิภาพแบบเรียลไทม์และทุกองค์กรต้องตอบโจทย์บริการลูกค้าอย่างครบวงจร ซึ่ง 3เทรนด์ดังกล่าวทำให้ทุกธนาคารปรับกระบวนการเพื่อจะตอบโจทย์ลูกค้า

สำหรับพันธกิจของธนาคารไทยพาณิชย์จะตอบโจทย์ลูกค้ายุคใหม่ โดยธนาคารไทยพาณิชย์จะเป็น ดิจิทัลแบงก์ แต่ไม่ใช่เป็นธนาคารพาณิชย์ที่ไร้สาขา (Virtual Bank) และไม่ใช่ธนาคารที่ให้บริการดิจิทัลอย่างเดียว  แต่ยังคงเป็นธนาคารดั่งเดิม( Universal Bank)ต่อไป แต่จะใช้ดิจิทัลยกระดับบริการด้วยต้นทุนที่ถูกลงและตรงใจลูกค้า

“ พันธกิจของธนาคารไทยพาณิชย์จากนี้ไปสู่อนาคต เราจะเป็นอันดับหนึ่งด้านความมั่งคั่ง สนับสนุนการเติบโตคนระดับกลาง ด้วยบริการที่เชื่อมกันไร้รอยต่อ   ธนาคารไทยพาณิชย์เราจะไม่ไปขอ License ธนาคารพาณิชยไร้สาขา จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพราะเชื่อว่าเราจะปรับตัวไปเป็นสิ่งนั้นได้อยู่แล้ว  สิ่งที่เราจะทำคือการบริหารต้นทุนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อตอบโจทย์บริการกลุ่มลูกค้าที่ยังเข้าไม่ถึงบริการได้”

 ทั้งนี้ การเป็นดิจิทัลแบงก์ แต่เชื่อว่าผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินยังต้องอาศัยความไว้ใจของลูกค้าผ่านความสัมพันธ์ระยะยาว  และข้อข้อมูลธนาคารดิจิทัลทั่วโลกที่มีอยู่ประมาณ 250แห่งมีสินทรัพย์เพียงสัดส่วนราว 0.04%เมื่อเทียบกับธนาคารดั่งเดิม

ดังนั้น  สาเหตุ ธนาคารไทยพาณิชย์ไม่ขอใบอนุญาตจัดตั้งธนาคารดิจิทัลไร้สาขา เพราะไทยพาณิชย์เป็นธนาคารอยู่แล้ว และกำลังเดินไปสู่ธนาคารดิจิทัลเช่นกัน จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเปิดธนาคารอีกแบรนด์ ที่สำคัญ ไทยพาณิชย์มีความชัดเจนในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นกลุ่มลูกค้าระดับกลางขึ้นระดับบน  ซึ่งการจะตอบโจทย์ลูกค้าระดับกลางขึ้นไปยังระดับบน ในแง่การตอบใจทย์โดยไม่ใช้คนหรือสาขา จึงไม่ใช่ทางออกของไทยพาณิชย์

มุมมองต่อธุรกิจธนาคารพาณิชย์นั้น นายกฤษณ์กล่าวว่า  ปีนี้เชื่อว่าจะเป็นปีที่ดีของธุรกิจธนาคาร ถ้าสมดุลตรงนี้กลับมาคือ นักท่องเที่ยวจีนค่อยๆกลับมา ความมั่นใจค่อยๆฟื้น เช่นเดียวกับเศรษกิจภาพรวม ธนาคารได้รับอานิสงค์จากดอกเบี้ยขาขึ้น

ขณะเดียวกันธนาคารจะไม่เพิ่มความเสี่ยงต่อระบบ ซึ่งธนาคารส่วนใหญ่จะมีความรอบคอบและรัดกุมในการไม่ผ่องถ่ายความเสี่ยงในการขึ้นดอกเบี้ยให้ลูกค้ากลุ่มเปราะบางจนเกินไป  ซึ่งเรื่องนี้ทุกธนาคารพยายามดูแลความเสี่ยงในเชิงระบบอยู่แล้ว   และทำให้ลูกค้าเดินต่อไปได้ เหล่านี้เป็นภาพที่เรามองในเชิงบวกทั้งปีนี้และปีหน้า

“แต่จะต้องบริหารการผ่องถ่ายให้ค่อยๆกลับมาสู่สภาวะปกติ ได้อย่างมั่นคง หมายความว่าสินทรัพย์ เอ็นพีแอลการบริหารจัดการหนี้สินของธนาคารจะต้องรัดกุม การอนุมัติสินเชื่อไม่ปล่อยแบบสุดซอย โดยปีนี้เน้นสร้างสมดุลระหว่างการขยายพอร์ตสินเชื่อควบคู่กับการคุมคุณภาพ โดยคาดว่าสินเชื่อจะเติบโตได้ 3%จากเป้าตั้งไว้ 3-5% เอ็นพีแอลอยู่ที่ 3% ขณะที่ผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (ROE) มากกว่า 10%และอยากเห็นค่าใช้จ่ายต่อรายได้ต่ำกว่า 30% มีรายได้ค่าธรรมเนียมเป็นตัวเลข 2หลัก และในปี2568จะเป็นMain Bankของลูกค้า”

ไทยพาณิชย์ฟื้นเชื่อมั่นให้ลูกค้าปลอดภัย “บัญชีม้า-แอปดูดเงิน”