inverted yield curve ตลาดบอนด์สหรัฐ ส่งสัญญาณ ศก.ถดถอยใกล้แล้ว

16 ธ.ค. 2565 | 06:33 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ธ.ค. 2565 | 13:55 น.

ตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve วานนี้ (15 ธ.ค.) โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นดีดตัวเหนือพันธบัตรระยะยาว บ่งชี้แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจถดถอย

 

อัตราผลตอบแทนพันธบัตร อายุ 2 ปี ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อ นโยบายการเงิน ของ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ดีดตัวเหนือระดับ 4.25% และอยู่สูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีและ 30 ปีเมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมา (15 ธ.ค.) นับเป็น ภาวะ inverted yield curve ซึ่งนักลงทุนถือเป็นสัญญาณแนวโน้มการเกิด เศรษฐกิจถดถอย ในสหรัฐอีกครั้ง

     

โดย ณ เวลา 22.10 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปี อยู่ที่ระดับ 4.251% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 3.474% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.494%

 

ที่ผ่านมา ภาวะ inverted yield curve มักเกิดขึ้นจากการที่นักลงทุนพากันเทขายพันธบัตรระยะสั้น และเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาว ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในระยะสั้น โดยนักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะได้รับผลกระทบจากการที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ในวันเดียวกัน สหรัฐยังเปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกดิ่งลงมากกว่าคาด ส่งผลให้นักลงทุนหวาดหวั่นว่า การที่เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะฉุดเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย

 

อ่านเพิ่มเติม: เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ตามคาด พร้อมส่งสัญญาณดอกเบี้ยขาขึ้นในปี 66

 "เฟดกำลังปิดถนนขวางทางรถเลื่อนของซานต้า"

ปรากฎการณ์ "ซานต้า แรลลี่"

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกดิ่งลง 0.6% ในเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการร่วงลงมากที่สุดในรอบ 11 เดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่ายอดค้าปลีกจะปรับตัวลงเพียง 0.1% หลังจากพุ่งขึ้น 1.3% ในเดือนต.ค.

 

ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อ ซึ่งส่งผลให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ขณะที่เงินออมลดลง ท่ามกลางแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ลดลง 0.2% ในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนต.ค.

 

นางซิลเวีย จาบลอนสกี ซีอีโอและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Defiance ETFs ให้ความเห็นว่า นโยบายการเงินที่เข้มงวดของเฟดกำลังเป็นอุปสรรคต่อการเกิดปรากฎการณ์ "ซานต้า แรลลี่" ในปีนี้

 

 "เฟดกำลังปิดถนนขวางทางรถเลื่อนของซานต้า" นางจาบลอนสกีกล่าวว่า ถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดส่งสัญญาณชัดเจนว่า เขาไม่มีแผนจะชะลอ หรือหันเหทิศทางจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

 

"เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยสูงขึ้นและยาวนานขึ้น และนโยบายการเงินจะเข้มงวดกว่าที่คาดไว้ ขณะที่ตลาดจะถูกกดดันเป็นเวลานานขึ้นจากนโยบายของเฟด แม้มีการดีดตัวขึ้นชั่วคราวขานรับตัวเลข CPI ก่อนหน้านี้ แต่ท่าทีล่าสุดของเฟดจะทำให้ตลาดเผชิญภาวะผันผวนในระยะใกล้" นางจาบลอนสกีกล่าว

 

ทั้งนี้ ปรากฎการณ์ "ซานต้า แรลลี่" มักเกิดขึ้นเป็นเวลา 7 วันทำการ โดยมีขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีปัจจุบัน รวมทั้ง 2 วันแรกของปีใหม่

 

ข่าวดียังมีอยู่

ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 20,000 ราย สู่ระดับ 211,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 230,000 ราย

 

นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวอยู่ต่ำกว่าระดับ 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐ

 

ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.671 ล้านราย