ดาวโจนส์ปิดลบ 7.51 จุด กังวลตลาดแรงงานตึงตัวหนุนเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย

18 พ.ย. 2565 | 06:48 น.
อัปเดตล่าสุด :18 พ.ย. 2565 | 13:48 น.

ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบในวันพฤหัสบดี (17 พ.ย.) หลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่า ข้อมูลที่บ่งชี้ถึงภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานของสหรัฐจะยิ่งผลักดันให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,546.32 จุด ลดลง 7.51 จุด หรือ -0.02%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,946.56 จุด ลดลง 12.23 จุด หรือ -0.31% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,144.96 จุด ลดลง 38.70 จุด หรือ -0.35%
         

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด โดยนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายในขณะนี้ยังไม่ได้อยู่ในกรอบที่ถือว่ามีการคุมเข้มมากเพียงพอ
         

"แม้ว่าเฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขึ้นสู่กรอบ 3.75% - 4.00% ในปีนี้ แต่ก็ยังต่ำกว่าระดับที่เฟดมองว่ามีการคุมเข้มมากพอที่จะฉุดเงินเฟ้อให้กับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ซึ่งกรอบอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับคุมเข้มอย่างมีประสิทธิภาพก็คือ 5% - 7%" นายบูลลาร์ดกล่าว
         

 

 

ทางด้านนางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัส ซิตี้ แสดงความเห็นว่า เฟดอาจจะต้องทำให้เศรษฐกิจหดตัวลงเพื่อให้เงินเฟ้อชะลอตัว ขณะที่ตลาดแรงงานยังคงมีความตึงตัว

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่าข้อมูลที่บ่งชี้ถึงภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานจะยิ่งทำให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 222,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 225,000 ราย
         

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 19% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อนซึ่งอยู่ที่ 15% อย่างไรก็ดี นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งนี้

หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคร่วงลงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นพีจีแอนด์อี ร่วงลง 1.02% หุ้นเอ็กเซลอน คอร์ปอเรชั่น ดิ่งลง 1.15% หุ้นดุ๊ค เอนเนอร์จี ร่วงลง 2.5%
         

หุ้นซิสโก้ ซิสเต็มส์ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 4.96% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดในช่วงเดือนส.ค.-ต.ค. ซึ่งเป็นไตรมาส 1 ตามปีงบการเงินบริษัท โดยกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 86 เซนต์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 84 เซนต์ และรายได้อยู่ที่ 1.36 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.33 หมื่นล้านดอลลาร์
         

หุ้นเมซีส์ อิงค์ ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของสหรัฐ ทะยานขึ้น 15.02% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ที่ระดับ 52 เซนต์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 19 เซนต์ และรายได้อยู่ที่ 5.23 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.20 พันล้านดอลลาร์