ดาวโจนส์ปิดร่วง 638 จุด วิตกเงินเฟ้อสูงหนุนเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 600 จุดในวันพฤหัสบดี (9 มิ.ย.) นักลงทุนกังวลว่าตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐยังอยู่ในระดับสูงและผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐยังเป็นปัจจัยกดดัน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,272.79 จุด ร่วงลง 638.11 จุด หรือ -1.94%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,017.82 จุด ลดลง 97.95 จุด หรือ -2.38% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,754.23 จุด ดิ่งลง 332.05 จุด หรือ -2.75%
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดยังคงส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ขณะที่ดัชนีความผันผวน CBOE หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ พุ่งขึ้นเหนือระดับ 26 จุดเป็นครั้งแรกในเดือนนี้
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค.ของสหรัฐในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวดาวโจนส์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 5.9% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 6.2% ในเดือนเม.ย. และคาดว่าดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 8.3% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังปรับตัวขึ้น 8.3% ในเดือนเม.ย.เช่นกัน
เควิน มาทราส นักวิเคราะห์จากบริษัทแซคส์ อินเวสต์เมนท์ รีเสิร์ชกล่าวว่า นักลงทุนกังวลว่าการที่ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงอยู่ในระดับสูงและการที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยนักลงทุนจับตาการประชุมเฟดครั้งต่อไปในวันที่ 14-15 มิ.ย.นี้อย่างใกล้ชิด
หุ้นทั้ง 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร โดยหุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ (เฟซบุ๊ก) ดิ่งลง 6.43% หุ้นทวิตเตอร์ ร่วงลง 2.27% หุ้นแอปเปิล ร่วงลง 3.6% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 4.96% หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 2.01% หุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 2.08%
หุ้นกลุ่มกาสิโนร่วงลงอย่างหนักเช่นกัน โดยหุ้นลาสเวกัส แซนด์ส ดิ่งลง 5.62% หุ้นซีซาร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ร่วงลง 3.82% หุ้นเอ็มจีเอ็ม รีสอร์ท ร่วงลง 3.04%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 3.073% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.ปีนี้ รวมทั้งตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสหรัฐซึ่งเพิ่มขึ้น 27,000 ราย สู่ระดับ 229,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 210,000 ราย