บลจ.ไทยพาณิชย์ ส่ง SCBRMPGF ลุยหุ้นเด็ด 3 กลุ่มประเทศพัฒนา

17 พ.ค. 2565 | 19:47 น.
อัปเดตล่าสุด :18 พ.ค. 2565 | 02:47 น.

บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดกองทุน RMF ใหม่ ส่ง SCBRMPGF ลุยหุ้นเด็ด 3 กลุ่มประเทศพัฒนา โอกาสสร้างความมั่งคั่งแบบยั่งยืน เตรียมพร้อมสู่วัยเกษียณ เริ่ม IPO ครั้งแรก 17-23 พ.ค. นี้

นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBAM เปิดเผยว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) คาดว่า เศรษฐกิจกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วอย่าง สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และยุโรป จะยังเติบโต จากปัจจัยหนุนที่การแพร่ระบาดของ โควิด-19 คลี่คลายลง อัตราการฉีดวัคซีนอยู่ในระดับสูง มีการเปิดเมืองปกติทำให้การบริโภคในประเทศกลับมาขยายตัวได้ดี

นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ. ไทยพาณิชย์ จำกัด

ประกอบกับอัตราการออมที่ยังอยู่ในระดับสูง ช่วยกระตุ้นให้มี Pent-up demand นำเงินออกมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นในปีนี้ บลจ.ไทยพาณิชย์ จึงได้ออกกองทุน RMF ใหม่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ แพลทตินัม โกลบอล เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRMPGF) เริ่มเสนอขายครั้งแรก(IPO) ระหว่างวันที่ 17 - 23 พฤษภาคม 2565

ความน่าสนใจของกองทุน SCBRMPGF มาจากการมุ่งลงทุนในหุ้นคุณภาพของบริษัทชั้นนำขนาดใหญ่ใน 3 กลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว คือ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และยุโรป ซึ่งต้องเป็นหุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานดี มีโอกาสเติบโตได้ดี ตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการกองทุนคุณภาพสามารถสร้างโอกาสทำกำไรในระยะยาว รวมถึงสามารถวางแผนภาษีและเพิ่มเงินออมได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเกษียณ ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท 

 

จุดเด่นของกองทุน SCBRMPGF คือกระบวนการคัดเลือกหุ้นเพื่อการลงทุนตาม CROCI Sectors Strategy ที่เป็นระบบเพื่อวิเคราะห์ตัวเลขทางการเงินในการประเมินหุ้นรายตัว โดยเน้น 9 กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ สินค้าฟุ่มเฟือย สินค้าในครัวเรือน สุขภาพ/เวชภัณฑ์ เทคโนโลยีและไอที อุตสาหกรรม วัสดุก่อสร้าง กลุ่มสื่อสาร สาธารณูปโภค และพลังงาน (ยกเว้นกลุ่มการเงินและธนาคาร) 

จากนั้นกองทุนจะเลือก 3 กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีค่า CROCI P/E ต่ำสุด และเลือกหุ้น10 ตัวแรกที่ถูกที่สุดในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม โดยกระจายลงทุนในน้ำหนักเท่ากันทุกตัว

 

นอกจากนี้ กองทุนยังมีการปรับสัดส่วนการลงทุนในทุกไตรมาส ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของภาวะตลาด เพื่อคงโอกาสในการสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้ต่อเนื่อง ซึ่งกองทุนนี้จะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนกองทุนรวมต่างประเทศกองทุนเดียว คือ DWS Invest CROCI Sectors Plus ใน Share Class FCH (P) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน อีกทั้ง กองทุนหลักนี้ยังได้รับ Morningstar Rating 5 ดาว ประเภท EAA OE Global Large-Cap Value Equity อีกด้วย            

 

“เรามองว่า ตลาดหุ้นประเทศพัฒนาแล้วอาจมีความผันผวนในระยะสั้นถึงกลาง ตามทิศทางนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะปัญหาความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และพลังงานปรับสูงขึ้น”นางนันท์มนัสกล่าว

 

อย่างไรก็ตาม การที่ดัชนีตลาดหุ้นประเทศพัฒนาแล้ว ปรับตัวลงมาค่อนข้างมากตั้งแต่ต้นปี ทำให้ระดับมูลค่าพื้นฐานเริ่มกลับมาอยู่ในระดับน่าสนใจ รวมทั้งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนยังมีอัตราการเติบโตที่ดีอยู่ นับเป็นโอกาสดีของการลงทุนระยะยาวเพื่อทยอยสะสมกองทุนที่เน้นลงทุนในตลาดประเทศพัฒนาแล้ว 

 

ซึ่งกองทุน SCBRMPGF เองก็เข้าไปลงทุนในบริษัทชั้นนำขนาดใหญ่หลากหลายอุตสาหกรรม โดยมีการปรับสัดส่วนลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตลาด เพื่อสร้างโอกาสทำกำไรในระยะยาวแบบยั่งยืนให้กับนักลงทุน