อดีตขุนคลังเตือนคนไทย อย่าล้มละลายแบบศรีลังกา

09 เม.ย. 2565 | 14:05 น.
อัปเดตล่าสุด :09 เม.ย. 2565 | 21:07 น.
638

อดีตรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลัง “สุชาติ ธาดาธำรงเวช ยก 7 ข้อปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองในศรีลังกา วอนคนไทยช่วยกันระมัดระวัง อย่าปล่อยให้ประเทศล้มละลาย

นายสุชาติ​​ ธา​ดา​ธำ​รง​เวช​ อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า คนไทยต้องช่วยกันระมัดระวัง​ อย่าปล่อยให้ประเทศล้มละลายแบบประเทศศรีลังกา เพราะ

นายสุชาติ​​ ธา​ดา​ธำ​รง​เวช​ อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

1.ศรีลังกามีประชากร​ 22​ ล้านคน​ ปัจจุบัน​มีอัตราเงินเฟ้อสูงมากถึง 19% ขาดเงินตราต่างประเทศในการซื้อน้ำมัน ทำให้ต้องยุติการผลิตไฟฟ้าวันละ 13 ชั่วโมง นับเป็นตัวอย่างของผู้นำประเทศ​ที่ล้มเหลว คอร์รัปชั่น ไม่มีเครดิต ไม่มีความน่าเชื่อถือ ทำให้ประชาชนอดอยากยากแค้น ลุกขึ้นมาประท้วงทั่วประเทศ จนทำให้คณะรัฐมนตรีเกือบทั้งหมดลาออก แต่ผู้นำซึ่งเป็นประธานาธิบดียังอยากจะอยู่ต่อไป ดูแล้วคล้ายคลึงกับกรณีประเทศไทย

2.ประธานาธิบดีราชปักษา เป็นคนขี้โมโห ไม่ฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ เป็นลักษณะของรัฐบาลสั่งการ ประเทศศรีลังกา​ มีปัญหาคือ ขาดแคลนอาหาร ไฟฟ้าไม่พอ ไฟดับวันละ 13 ชั่วโมง ขาดยารักษาโรค ขาดน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับยานพาหนะต่างๆ ต้องเข้าแถวซื้อแก๊สหุงต้ม เข้าแถวซื้อนมผง เด็กนักเรียน​ ขาดกระดาษทำข้อสอบ

 

เมื่อเดือน มี.ค.65​ ราคาอาหารเพิ่มขึ้นถึง​ 30% และ​เดือน​ เม.ย.นี้ รัฐบาลศรีลังกาออกคำสั่งในข้ามคืนห้ามใช้ปุ๋ยเคมี ทำให้ชาวนาตกใจมาก เกิดการสูญเสียผลผลิตจำนวนมาก ประเทศศรีลังกา​ เป็นหนี้ต่างประเทศถึง 81,000 ล้านดอลลาร์ แต่มีเงินสำรองระหว่างประเทศ เพียง 2,000 ล้านดอลลาร์ ไม่เพียงพอสำหรับชำระหนี้​ที่ถึงกำหนดแล้ว​ 3,900 ล้านดอลลาร์

3.การลุกขึ้นประท้วงของประชาชนคราวนี้ ไม่ได้มาจากฝ่ายค้าน  NGO หรือสหภาพแรงงาน แต่มาจากประชาชนที่ไม่พอใจรัฐบาล ที่สร้างปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำและมีการคอร์รัปชั่น

 

4.ศรีลังกากู้เงินจากต่างประเทศและจากจีนมามากมาย เพื่อทำท่าเรือ สนามบินใหม่ แต่แทบไม่มีการใช้งาน ไม่มีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ ดูคล้ายๆ กับโครงการอีอีซีของไทย จึงทำให้ประเทศเป็นหนี้สินล้นพ้นตัว ประชาชนไม่มีงานทำ อดอยากยากแค้น ประท้วงทั่วประเทศ แต่ประธานาธิบดียังคงประกาศอยู่ต่อไป อาจเป็นเพราะทำผิดกฎหมายไว้มาก อาจมีคอร์รัปชั่นมาก ถ้าออกมาแล้ว จะต้องถูกตรวจสอบ อาจถูกจับกุม ต้องหนีไปต่างประเทศ จึงดื้อดันทุรังอยู่ต่อไปเรื่อยๆ

 

5.กรณีประเทศไทย รัฐบาลจากการรัฐประหารอยู่มาแล้วเกือบ 8 ปี ทำให้ประเทศซึ่งเคยอยู่อันดับต้นๆของอาเซียน กลายเป็นอันดับท้ายๆ รัฐไม่มีความน่าเชื่อถือ เศรษฐกิจเติบโตเฉลี่ย 1% กว่าๆ นักลงทุนหนีหาย รัฐกู้เงินมาลงทุนในโครงการที่ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจต่ำ รัฐกู้เงินมาแจก มาติดสินบนประชาชนคนละเล็กละน้อย แต่ประเทศไม่เจริญเติบโต ทำให้ประชาชนตกงานมาก

 

6.ในระหว่างที่ประชาชนลำบาก กลุ่มผู้ปกครองจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ในโรงแรมหรู กินของดีๆ แพงๆ ระบบการเมืองเป็นแบบศักดินาดึกดำบรรพ์ ผู้คนทั้งโลกก็เห็นอยู่ แต่จะดันทุรังอยู่ต่อไปเรื่อยๆ เอาภาษีประชาชนมาใช้แบบไม่มีสาระ ใช้โฆษณาประชาสัมพันธ์ตนเอง ใช้ติดตามตรวจสอบประชาชน ที่ประเทศประชาธิปไตยเขาไม่ทำกัน หากปล่อยไปอย่างนี้ ในที่สุดประเทศไทยจะเป็นคล้ายๆ กับศรีลังกา เวเนซุเอลา ซิมบับเว เป็นประเทศที่ไม่มีอนาคต ประชาชนจะยากจน นักเรียนนักศึกษาจบมาจะไม่มีงานทำ ไม่มีความใฝ่ฝัน

 

7.ขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกันดูแลชาติบ้านเมืองครับ

 

“รัฐบาลต้องรับใช้ประชาชน ไม่ใช่เป็นเจ้านายประชาชน”นายสุชาติกล่าว