EA ทุ่ม 3 พันล้านซื้อกิจการ"สมาร์ทบัส" ต่อยอดธุรกิจเดินรถโดยสารไฟฟ้าในกทม.

23 มี.ค. 2565 | 13:07 น.
อัปเดตล่าสุด :23 มี.ค. 2565 | 20:08 น.
712

บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ส่งบริษัทย่อย" อี ทรานสปอร์ต โฮลดิง"(E Transport Holding Co., Ltd.) เข้าซื้อกิจการของบริษัท สมาร์ทบัส จำกัด ด้วยงบลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท เติมเต็ม Ecosystem ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าของ EA ครบวงจร

นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ  EA  ผู้นำนวัตกรรมด้านพลังงานและยานยนต์ไฟฟ้า เปิดเผยว่า เพื่อต่อยอดการเติบโตของธุรกิจอย่างมั่นคง ในการผลิตรถโดยสารไฟฟ้าป้อนเข้าสู่ระบบขนส่งมวลชนของประเทศ บริษัทฯ จึงได้เข้าไปซื้อกิจการของบริษัท สมาร์ทบัส จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถโดยสารประจำทางในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งมีสัปทานการเดินรถรวม 37 สาย สูงสุดกว่า 1,200 คัน ผ่านบริษัท อี ทรานสปอร์ต โฮลดิง จำกัด  ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในกลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ เพื่อนำรถโดยสารไฟฟ้าที่บริษัทฯ ผลิตได้เอง มาวิ่งให้บริการในกรุงเทพฯ  ให้ประชาชนไทยได้ใช้รถโดยสารที่ทันสมัยและไร้มลพิษอย่างเป็นรูปธรรม

 

โดยการลงทุนในบริษัท สมาร์ทบัส จำกัด จะทำให้บริษัทฯ มีธุรกิจครอบคลุมต้นน้ำสู่ปลายน้ำ มีเครือข่ายรถโดยสารประจำทาง ที่แข็งแรงขึ้นในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เชื่อมต่อรถโดยสารไฟฟ้า และเรือโดยสารไฟฟ้าของบริษัทตามนโยบายของรัฐบาลอย่างครบวงจร     

ปัจจุบัน EA มีโรงงานผลิตรถโดยสารไฟฟ้าภายในประเทศที่ได้รับมาตรฐานระดับสากล ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต จนถึงการให้บริการดูแลซ่อมบำรุงหลังการขายที่ครบวงจร พร้อมทั้งมีโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนที่ใหญ่ที่สุดของไทยและอาเซียน ซึ่งสามารถผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนและระบบสำรองไฟฟ้าได้เองครบทุกกระบวนการด้วยกำลังการผลิตในระยะเริ่มต้น 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี เพื่อป้อนให้กับการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ของบริษัท ได้แก่ รถโดยสารไฟฟ้า MINE Bus เรือโดยสารไฟฟ้า MINE Smart Ferry และรถบรรทุกไฟฟ้า 

 

นอกจากนี้บริษัทฯ มีการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าไว้รองรับยานยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยเทคโนโลยี Ultra Fast Charge ที่ทันสมัยที่สุด ที่ใช้เวลาชาร์จเพียง 15 นาที ที่มีชื่อว่า EA Anywhere โดยบริษัทฯ มุ่งหวังยกระดับการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะให้มีความทันสมัย สะดวกสบาย และเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดมลภาวะอย่างยั่งยืนเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเข้าสู่การเป็นสังคมไร้คาร์บอนอย่างจริงจัง