ทีเอ็มบีธนชาต ชวนลงทุนกองทุน SSF และ RMF โค้งสุดท้ายปี 2564

05 พ.ย. 2564 | 15:45 น.
อัปเดตล่าสุด :05 พ.ย. 2564 | 23:04 น.

ทีทีบีจัดโปรประหยัดภาษีโค้งท้ายปี2564 หนุนคนไทยลงทุน 5กองทุน SSF และกองทุนRMF อีก 2ทางเลือก -ทุก ๆ 50,000 บาท รับเงินลงทุนเพิ่มในกองทุนตราสารตลาดเงิน เมื่อลงทุนตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2564

ทีทีบีจัดโปรประหยัดภาษีโค้งท้ายปี2564 หนุนคนไทยลงทุน กองทุน SSF “ UOBEQ-SSF /T-EG-GCG-SSF / T-ES-GTECH-SSF / UOBEQ-SSF / T-EG-GCG-SSF” และกองทุน RMF อีก 2ทางเลือก “ TMBGQGRMF และTMBGINCOMERMF”สำหรับการลงทุนทุก ๆ 50,000 บาท รับเงินลงทุนเพิ่มในกองทุนตราสารตลาดเงิน เมื่อลงทุนตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2564

ทีเอ็มบีธนชาต ชวนลงทุนกองทุน SSF และ RMF โค้งสุดท้ายปี 2564

นางกิดาการ ชัฏสุวรรณ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์กองทุนรวม ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) เปิดเผยว่า  ธนาคารได้ทำการคัดสรรกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) พร้อมสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีที่นักลงทุนหลายคนกำลังมองหาในการเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนมาแนะนำอย่างหลากหลายให้เลือกได้ตามความต้องการ

 

“ช่วงนี้เป็นโค้งสุดท้ายสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษี ซึ่งกองทุน SSF และ RMF ตอบโจทย์ในเรื่องนี้ เพราะเป็นการลงทุนเพื่อการออมในระยะยาวที่สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ แต่จุดเด่นและเงื่อนไขการลงทุนของแต่ละกองทุนจะมีความแตกต่างกัน ธนาคารขอแนะนำว่าสำหรับคนที่มีช่วงอายุ 18 – 45 ปี ให้เน้นซื้อ SSF ก่อน เพราะใช้ระยะเวลาการถือครองแค่ 10 ปี ซึ่งมีทั้งกองทุนแบบปันผลและไม่ปันผล และสำหรับคนอายุ 45 ปีขึ้นไป ให้ซื้อ RMF” 

สำหรับเงื่อนไขการลงทุน SSF และ RMF มีดังนี้ ซื้อได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี โดย SSF มูลค่าเงินลงทุนไม่เกิน 200,000 บาท และมีระยะเวลาการถือครอง 10 ปี แบบวันชนวัน ส่วน RMF มูลค่าเงินลงทุนไม่เกิน 500,000 บาท และจะขายได้เมื่ออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และต้องถือกองทุนมาอย่างน้อย 5 ปี นับวันชนวัน ซึ่งการลงทุนทั้ง SSF และ RMF วงเงินรวมที่ไม่เกินนั้นเป็นการรวมกับกองทุนการออมเพื่อการเกษียณ (กองทุน SSF, กองทุน RMF, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ, กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน, กองทุนการออมแห่งชาติ หรือเบี้ยประกันภัยสำหรับการประกันชีวิตแบบบำนาญ) ด้วย

 

สำหรับกองทุน SSF และ RMF ที่ทีเอ็มบีธนชาตคัดสรรมารองรับความต้องการของนักลงทุนจะมีทั้งกองทุนที่เน้นผลตอบแทน กองทุนที่ลงทุนในหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศทั่วโลก หุ้นเทคโนโลยี โดยกองทุน SSF ได้แก่ กองทุนเปิดยูไนเต็ด ตราสารทุนเพื่อการออม (UOBEQ-SSF), กองทุนเปิดธนชาต อีสท์สปริง Global Capital Growth เพื่อการออม (T-EG-GCG-SSF), กองทุนเปิดธนชาต อีสท์สปริง Global Technologyเพื่อการออม (T-ES-GTECH-SSF), กองทุนยูไนเต็ด ตราสารทุน เพื่อการออม (UOBEQ-SSF) และกองทุนเปิดธนชาต อีสท์สปริง Global Capital Growth เพื่อการออม (T-EG-GCG-SSF)

 

สำหรับกองทุน RMF ได้แก่ กองทุนเปิดทหารไทย Global Quality Growth เพื่อการเลี้ยงชีพ (TMBGQGRMF) และกองทุนเปิดทีเอ็มบี Global Income เพื่อการเลี้ยงชีพ (TMBGINCOMERMF)

 

นางกิดาการ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ทีเอ็มบีธนชาตส่งเสริมให้คนไทยลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีเพื่อชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น ทั้งวันนี้และอนาคต พร้อมสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีในช่วงโค้งสุดท้ายของปี กับโปรโมชันกองทุนลดหย่อนภาษี ปี  2564 ตั้งแต่วันนี้ – 30 ธันวาคม 2564 การลงทุนทุก ๆ 50,000 บาท จะได้รับเงินลงทุนเพิ่มในกองทุนตราสารตลาดเงิน (Money Market) จำนวน 100 บาท (ตามบลจ.ที่ลงทุน) และยอดรวมซื้อ / สับเปลี่ยนกองทุนเข้าต้องไม่เกิน 500,000 บาท และพิเศษ! ทุกกองทุนลดหย่อนภาษีสามารถจ่ายผ่านบัตรเครดิต ttb ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดกองทุนที่ร่วมรายการ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ทีเอ็มบีธนชาตทุกสาขา หรือ ttb investment line โทร.1428 กด #4 ทุกวันจันทร์ – วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 9:00 – 17:30น. (ยกเว้นวันหยุดธนาคาร)