ธอส.เผยมีลูกค้าแจ้งเคลมบ้านเสียหายจากเหตุโรงงานระเบิดแล้ว 102 ราย

06 ก.ค. 2564 | 16:09 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ก.ค. 2564 | 23:36 น.

ธอส. เผยผลสำรวจลูกค้าในรัศมี 5 กม. จากจุดเกิดเหตุโรงงานระเบิด มีกว่า 13,000 ราย ล่าสุดได้รับแจ้งเคลมความเสียหายแล้ว 102 ราย แนะลูกค้าให้สอบถามข้อมูลเพื่อรับคำแนะนำในการเคลมประกันความเสียหายที่เกิดขึ้น

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีลูกค้าธนาคารที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โรงงานระเบิดและไฟไหม้ในซอยกิ่งแก้ว 21 มาขอแจ้งเคลมแล้ว (ข้อมูล ณ วันที่ 6 ก.ค. 64 เวลา 16.00น.) จำนวน 102 ราย ซึ่งขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างการสำรวจว่ามีลูกค้าได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด แต่โดยเบื้องต้นมีลูกค้าธนาคารที่อยู่ในรัศมี 5 กม. จากจุดเกิดเหตุดังกล่าวประมาณ 13,000 ราย ซึ่งคิดเป็นวงเงินต้นคงเหลือ ประมาณ 14,000 ล้านบาท

“ลูกค้าของธนาคารในรัศมี 5 กม. เท่าที่สำรวจเบื่้องต้นที่มีอยู่ประมาณ 13,000 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบความเสียหาย จึงต้องรอความชัดเจนเพื่อสรุปตัวเลขความเสียหายอีกครั้ง เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ยังไม่สามารถกลับเข้าบ้านได้ ดังนั้น เพื่่อให้ลูกค้าได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที จึงขอให้ลูกค้าของ ธอส. ติดต่อสอบถามข้อมูล เพื่อให้รับทราบการเคลมความเสียหาย โดยธนาคารจะเร่งประสานความช่วยเหลือไปยังบริษัทประกัน เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือนร้อนให้ลูกค้าโดยเร็วที่สุด” นายฉัตรชัย กล่าว

ฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส.

ขณะเดียวกัน ธอส. ยังแนะนำให้ลูกค้าที่ยังได้รับผลกระทบทั้งในส่วนของหลักประกันเสียหาย หรือกระทบกับรายได้ในการประกอบอาชีพทำเรื่องเคลมมายังธนาคาร โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ใกล้ช่วงหมดมาตรการในเดือนธันวาคม 2564 รวมถึงขอ ให้แจ้งความจำนงขอเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือที่ธอส.ออกมาโดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของลูกค้าให้ได้มากที่สุด 

ทั้งนี้ ลูกค้าที่ได้รับความเสียหายสามารถติดต่อมาที่ส่วนธุรกรรมประกันภัย ธอส. โทร. 0 2202 1385 ถึง 89 หรือ บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จากัด(มหาชน) โทร. 0 26311311 ต่อ 5312, 5340 พร้อมแจ้ง ชื่อ นามสกุล เลขที่บัญชีเงินกู้ และเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ หลังจากนั้นบริษัทประกันภัยจะติดต่อนัดหมายกับลูกค้าเพื่อเข้าสารวจความเสียหายและพิจารณาจ่ายค่าสินไหมให้แก่ลูกค้าเพื่อบรรเทาผลกระทบโดยเร็วต่อไป

 

ทั้งนี้ ธอส.ได้ออก 7 มาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ประกอบด้วย 1) ลดดอกเบี้ยเหลือ 0.01% ต่อปี นาน 1 ปี 2) ให้กู้เพิ่มหรือกู้ใหม่ ดอกเบี้ยปีแรก 1% ต่อปี 3) ลูกหนี้ที่หลักประกันเสียหาย ให้ประนอมหนี้ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี ดอกเบี้ย 0% ต่อปี 4 เดือน ไม่ต้องชำระเงินงวด 4 เดือนแรก 4) ลูกหนี้ที่มีผลกระทบด้านรายได้ ให้ประนอมหนี้ไม่เกิน 1 ปี ดอกเบี้ย 1% ต่อปี           

5) กรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรให้ผ่อนชำระดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี 6) ที่อยู่อาศัยเสียหายทั้งหลังซ่อมแซมไม่ได้ให้ปลอดหนี้ในส่วนของอาคาร และ 7) ลูกค้าที่หลักประกันได้รับความเสียหาย อาทิ กระจกแตก เกิดรอยร้าวตามตัวอาคาร ให้แจ้งเคลมความเสียหายได้โดยพิจารณาจ่ายค่าสินไหมให้ตามมูลค่าของความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงแต่ไม่เกินทุนประกันอาคาร