ทุเรียนไทยผ่านฉลุย! เปิดด่านตรวจพืชนครพนมส่งออกไปจีน

นายอิทธิ  ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายเร่งด่วนให้ขับเคลื่อน “นโยบายผลไม้ปลอดภัย มีคุณภาพ สำหรับการบริโภคในประเทศและส่งออก” ทั้งนี้ ในวันที่ 20 มกราคม 2567 ได้มอบหมายให้ติดตามแก้ไขปัญหาสาร Basic Yellow2 ปนเปื้อนในทุเรียนผลสดส่งออกไปจีน พร้อมตรวจปล่อยตู้ทุเรียนคุณภาพส่งออกไปจีนจากล้งจนถึงด่านส่งออก ณ ด่านตรวจพืชนครพนม

จากสถานการณ์การส่งออกทุเรียนไทยไปสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ต้องตรวจสอบสาร Basic yellow 2 ในทุเรียนตามมาตรการเข้มงวดในการนำเข้า ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2568 ให้ต้องมีรายงานผลการทดสอบ Basic yellow 2 ในทุเรียนทุกล๊อตการผลิตที่ส่งออกจากไทยไปสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยได้รับรายงานจากกรมวิชาการเกษตรว่า ได้มีการประกาศความพร้อมการตรวจสอบสาร Basic yellow 2 ในทุเรียนผลสดตามมาตรการเข้มงวดในการนำเข้าทุเรียนของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2568 ทาง GACC ได้อนุญาตให้ใช้ห้องปฏิบัติการที่มีความสามารถในการทดสอบสาร Basic yellow 2 จำนวน 6 แห่ง ดังนี้

1. บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด สาขาเชียงใหม่

2. บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด สาขากรุงเทพฯ

3. บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด สาขาฉะเชิงเทรา

4. บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด สาขาสมุทรสาคร

5. บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด สาขาสงขลา

6. บริษัท ศูนย์ห้องปฏิบัติการและวิจัยทางการแพทย์และการเกษตรแห่งเอเซีย จำกัด (มหาชน) AMARC

ด้านนายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า กรมวิชาการเกษตรได้ดำเนินการสุ่มเก็บตัวอย่างทุเรียน เพื่อทดสอบ Basic yellow 2 แล้วตั้งแต่ค่ำวันที่ 17 มกราคม 2568 ที่ผ่านมาจนได้ผล Test Report ที่ใช้ประกอบการส่งออกทุเรียนไปจีนตามเงื่อนไขที่จีนกำหนด พร้อมทั้งได้เตรียมความพร้อมสำหรับให้ได้ทุเรียนคุณภาพตามมาตรการเข้มงวดในการส่งออก โดยใช้มาตรการ 4 ไม่ ได้แก่  1.ไม่อ่อน 2.ไม่หนอน 3.ไม่มีสวมสิทธิ์ และ4.ไม่สีไม่มีสารเคมีต้องห้าม มีเป้าหมาย  “Set Zero” การใช้สารเคมีในโรงคัดบรรจุทั้งหมด

เพื่อให้มีทุเรียนคุณภาพส่งไปยังผู้บริโภคชาวจีนได้ทันในช่วงเทศกาลตรุษจีน จึงได้เริ่มเก็บตัวอย่างภายหลังจากการแจ้งการอนุญาตให้ห้องปฏิบัติการที่มีความสามารถทั้ง 6 แห่ง ที่ได้รับการอนุญาตจาก GACC เข้าเก็บตัวอย่างส่งตรวจห้องปฏิบัติการรวมจำนวน 11 ล้ง 13 ชิปเมนท์ ปริมาณ 155.5 ตัน มูลค่ากว่า 11 ล้านบาท จากตัวอย่างในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี 5 ล้ง 7 ชิปเมนท์ ปริมาณ 58.5 ตัน มูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท

สำหรับการส่งออกทุเรียนทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในระหว่างวันที่ 20-21มกราคม 2568 ตัวอย่างทุเรียนที่จังหวัดชุมพร 6 ล้ง 6 ชิปเมนท์ ปริมาณ 97 ตัน มูลค่าประมาณ 8 ล้านบาท ส่วนการส่งออกทางบก 6 ชิปเม้นท์ คือ วันที่ 20 มกราคม 2568 ทางด่านตรวจพืชนครพนม จำนวน 3 ชิปเมนท์ และในวันที่ 20-21 มกราคม 2568 ทางด่านตรวจพืชเชียงของ จำนวน 3 ชิปเมนท์ โดยในทุกชิปเมนท์ได้รับการรับรองรายงานผลทดสอบจากห้องปฏิบัติการแล้ว

“การส่งออกทุเรียนผ่านด่านตรวจพืชนครพนม ในวันที่ 20 มกราคม 2568 ได้กำชับเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตรให้ตรวจสอบใบรายงานผลการทดสอบ Basic yellow 2 ในเนื้อและเปลือก ต้องตรวจไม่พบหรือ Not Detected และ Cadmium ในเนื้อ (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 0.05mg/kg) จึงจะออกใบรับรองสุขอนามัยพืช PC เพื่อแสดงที่ด่านนำเข้าของประเทศจีน ผมย้ำเตือนขอให้ผู้ประกอบการส่งออกมาตรการเข้มงวด 4 ไม่  ได้แก่  1.ไม่อ่อน 2.ไม่หนอน 3.ไม่มีสวมสิทธิ์ และ4.ไม่สีไม่มีสารเคมีต้องห้าม มีเป้าหมาย  “Set Zero” การใช้สารเคมีในโรงคัดบรรจุทั้งหมด เพื่อรักษาตลาดทุเรียนไทยที่ส่งออกไปจีน ที่มีมูลค่ากว่าแสนล้านบาทและอีกหลายแสนล้านให้กลับมาดำเนินการได้ตามปกติ” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว