“ปตท.” ปรับกลยุทธ์ลงทุนลดความเสี่ยงธุรกิจ-เป้า Net Zero

12 มี.ค. 2568 | 07:29 น.

ปตท. เดินหน้าปรับกลยุทธ์การลงทุนลดความเสี่ยงธุรกิจ มุ่งสร้างเสถียรภาพรับสงครามการค้าโลก พร้อมปรับเป้า Net Zero

นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท.อยู่ระหว่างรีวิวเป้าหมาย Carbon Neutrality 2040 และ Net Zero 2050 ใหม่อีกครั้ง โดยจะเน้นดูภาพรวมทั้งกลุ่มตามบริบทโลกที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะภาษีคาร์บอน จึงต้องดูช่วงเวลาเหมาะสมสุด เพราะทุกกระบวนการมีต้นทุน อาจจะช้าหรือเร็วเป็นไปได้หมด   

ทั้งนี้ เป้าหมายความยั่งยืนจะปลูกป่า 2 ล้านไร่เป็นวิธีที่ต้นทุนถูกสุด รวมถึงเดินหน้า 2 เรื่องสำคัญ ประกอบด้วย

  • ศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ Carbon Capture and Storage (CCS) ผ่าน บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ที่ได้ศึกษาทำแหล่งแซนด์บ็อกซ์ในแหล่งอาทิตย์ 1 ล้านตัน โดยต้นทุนการทำแท้จริงยังไม่สามารถระบุได้ อีกทั้งจะต้องรอภาครัฐกำหนดกฏกติกาและกฎหมายให้ชัดเจนก่อน เพราะมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องบูรณาการร่วมกันอย่างรอบคอบ ปัจจุบันภาครัฐมีคณะทำงาน และอีกส่วนยังมีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม หรือ กรมโลกร้อน ขับเคลื่อน โดยปัจจุบันสหรัฐเห็นความคุ้มค่า CCS รัฐบาล จึงอุดหนุนราคา 85 ดอลลาร์ต่อตันเพื่อเก็บคาร์บอน  

“ปตท.” ปรับกลยุทธ์ลงทุนลดความเสี่ยงธุรกิจ-เป้า Net Zero

  • ไฮโดรเจน ด้วยภาครัฐกำหนดสัดส่วนการผสมไฮโดรเจน 5% ในปี 2030 ดังนั้นเบื้องต้นจะเป็นการนำเข้าก่อน อาจเป็นตะวันออกกลาง อินเดีย เพราะต้นทุนถูก ใช้ในกลุ่มอุตสาหกรรมระดับแสนตัน 

อย่างไรก็ดี การลงทุนทั้ง 2 เรื่อง ยังต้องรอความชัดเจนจากภาครัฐโดยเฉพาะด้านกฎหมาย การกักเก็บคาร์บอน การกำหนดไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิง หากปตท.ลงทุนมั่นใจจะดึงดูดการลงทุนใหม่จากเอกชนที่ต้องการพลังงานสะอาด จีดีพีขยายตัว เกิดการจ้างงาน สร้างอาชีพ ซึ่งตัวเลขทางเศรษฐกิจจะประเมินอีกครั้ง

“ด้วยปัจจัยทั่วโลกที่เผชิญทั้งปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน และปัจจัยเศรษฐกิจภายในประเทศ ปตท.ในฐานะบริษัทพลังงานไทยที่ต้องดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การลงทุนจะต้องใช้อย่างชาญฉลาด หลังจากปีที่ผ่านมา ปตท.มุ่งเน้นปรับกลยุทธ์การลงทุน”

สำหรับเทคโนโลยีนิวเคลียร์เล็ก หรือ SMR อยู่ระหว่างศึกษาโดย บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC 

ส่วนปี 2568 ปตท. จะเน้นสร้างความมั่นคงและเติบโต โดยลดความเสี่ยงธุรกิจ สร้างเสถียรภาพทางธุรกิจจากการที่โลกมียังมีความวุ่นวาย ผันผวน รวมถึงธุรกิจที่มีอยู่ในช่วงขาลงไม่สมดุลกัน ยืนยันว่าไม่ใช่ว่าปตท. จะไม่ลงทุนแต่การลงทุนจะดูความคุ้มทุนเพื่อสร้างการเติบโตที่ก้าวกระโดด  

ด้านความคืบหน้าการหาพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจของบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ,บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างเจรจา