ขั้นตอนใช้บริการ “โรงรับจำนำรัฐ” ดอกเบี้ยต่ำ รับเงินด่วนใน 5 นาที

ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวน ค่าครองชีพสูงขึ้น แต่รายได้กลับไม่เพิ่มตาม หลายครอบครัวต้องเผชิญกับความท้าทายทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน ค่าเทอมลูก หรือเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ "สถานธนานุเคราะห์" หรือที่คนไทยรู้จักกันในนาม "โรงรับจำนำของรัฐ" จึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกสำคัญที่ช่วยบรรเทาปัญหาเฉพาะหน้าให้กับประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยที่อาจเข้าถึงบริการทางการเงินในระบบได้ยาก

 

สำนักงานธนานุเคราะห์ หรือ โรงรับจำนำของรัฐคืออะไร? 

สำนักงานธนานุเคราะห์ เป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ก่อตั้งขึ้นด้วยวัตถุประสงค์หลักในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาขาดแคลนเงินทุนในการดำรงชีพหรือประกอบอาชีพ

 

นอกจากจะเป็นทางเลือกในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนแล้ว โรงรับจำนำของรัฐยังมีบทบาทสำคัญในการควบคุมระดับอัตราดอกเบี้ยในตลาด ป้องกันไม่ให้โรงรับจำนำเอกชนเรียกเก็บดอกเบี้ยหรือค่าใช้จ่ายเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในการสร้างภูมิคุ้มกันและส่งเสริมโอกาสทางสังคมบนฐานความพอเพียง

ปัจจุบัน สำนักงานธนานุเคราะห์ให้บริการผ่านสถานธนานุเคราะห์ทั้งสิ้น 39 สาขาทั่วประเทศ โดยกระจายตัวอยู่ใน:

 

• กรุงเทพมหานคร 29 สาขา ครอบคลุมเขตสำคัญต่างๆ ของกรุงเทพฯ
• ปริมณฑลและต่างจังหวัด 10 สาขา ประกอบด้วย 
  • นนทบุรี 2 สาขา
  • ปทุมธานี 1 สาขา
  • สมุทรปราการ 1 สาขา
  • ระยอง 2 สาขา
  • ลำพูน 1 สาขา
  • สุราษฎร์ธานี 1 สาขา
  • อุดรธานี 1 สาขา
  • พิษณุโลก 1 สาขา

 

การกระจายตัวของสาขาในพื้นที่ต่างๆ นี้ ช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการได้สะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญและเมืองใหญ่ที่มีความต้องการใช้บริการสูง

รายละเอียดการให้บริการ

 

วันและเวลาทำการ

• เปิดให้บริการ: วันจันทร์ถึงวันศุกร์
• วันหยุด: วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
• เวลาทำการ
  • ช่วงเช้า 08.00-12.00 น.
  • ช่วงบ่าย 13.00-16.30 น.

 

การให้บริการหลัก

 

การรับจำนำ : บริการหลักของสถานธนานุเคราะห์ที่ช่วยให้ประชาชนนำทรัพย์สินมาวางเป็นประกัน และได้รับเงินสดไปใช้จ่ายในยามจำเป็น โดยมีขั้นตอนดังนี้:

 

1. การยืนยันตัวตน: ผู้ใช้บริการต้องแสดงบัตรประจำตัว พร้อมทรัพย์ที่จะจำนำ
2. การประเมินราคา: เจ้าหน้าที่จะประเมินมูลค่าทรัพย์สิน และตกลงราคารับจำนำ
3. การยืนยันด้วยชีวมิติ: ผู้ใช้บริการต้องสแกนลายนิ้วมือเพื่อยืนยันตัวตน
4. การรับเงินและตั๋วจำนำ: ผู้ใช้บริการจะได้รับเงินตามที่ตกลง พร้อมตั๋วรับจำนำและบัตรประจำตัวคืน

 

ระยะเวลาดำเนินการทั้งหมดรวมแล้วไม่เกิน 15 นาทีต่อรายการ แบ่งเป็นขั้นตอนการประเมินราคาไม่เกิน 5 นาที การสแกนลายนิ้วมือไม่เกิน 5 นาที และการรับเงินพร้อมตั๋วจำนำอีกไม่เกิน 5 นาที

 

การส่งดอกเบี้ย/ผ่อนเงินต้น : หากยังไม่พร้อมไถ่ถอนทรัพย์สิน ผู้ใช้บริการสามารถเลือกชำระเฉพาะดอกเบี้ยหรือผ่อนชำระเงินต้นบางส่วนได้ ด้วยขั้นตอนดังนี้:
 

1. แจ้งความประสงค์: นำตั๋วจำนำมายื่นต่อเจ้าหน้าที่ พร้อมแจ้งว่าต้องการส่งดอกเบี้ยหรือผ่อนเงินต้น
2. ชำระเงิน: เจ้าหน้าที่จะแจ้งยอดเงินที่ต้องชำระ และผู้ใช้บริการชำระตามที่แจ้ง
3. รับตั๋วใหม่: หลังชำระเงินแล้ว จะได้รับตั๋วจำนำใหม่พร้อมใบเสร็จรับเงิน

ใช้เวลาดำเนินการทั้งหมดไม่เกิน 8 นาที (รอชำระเงินไม่เกิน 5 นาที และรอรับตั๋วจำนำใหม่ไม่เกิน 3 นาที)

 

การเพิ่มเงินต้น : กรณีที่ต้องการกู้เงินเพิ่ม สามารถขอเพิ่มเงินต้นได้หากทรัพย์สินมีมูลค่าเพียงพอ โดยมีขั้นตอนดังนี้:

1. ยื่นคำขอ: นำตั๋วจำนำและบัตรประจำตัวมาแสดง พร้อมแจ้งความประสงค์ว่าต้องการเพิ่มเงินต้น
2. ประเมินราคาใหม่: เจ้าหน้าที่จะประเมินราคาทรัพย์สินใหม่ว่าสามารถเพิ่มเงินต้นได้หรือไม่
3. ยืนยันตัวตน: สแกนลายนิ้วมือนิ้วโป้งข้างขวา
4. รับ/จ่ายเงิน: หากได้รับการอนุมัติ จะได้รับเงินเพิ่มตามที่ประเมิน พร้อมตั๋วจำนำใหม่และใบเสร็จ

ระยะเวลาดำเนินการทั้งหมดไม่เกิน 12 นาที แบ่งเป็นการยื่นเอกสารและรอประเมินราคาไม่เกิน 5 นาที การสแกนลายนิ้วมือไม่เกิน 2 นาที และการรับ/จ่ายเงินไม่เกิน 5 นาที

 

การไถ่ถอน : เมื่อต้องการรับทรัพย์สินคืน สามารถไถ่ถอนได้ตามขั้นตอนดังนี้:

1. แจ้งความประสงค์: นำตั๋วจำนำและบัตรประจำตัวมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่
2. ตรวจสอบยอดเงิน: เจ้าหน้าที่จะแจ้งยอดเงินต้นและดอกเบี้ยที่ต้องชำระ
3. ยืนยันตัวตน: สแกนลายนิ้วมือนิ้วโป้งข้างขวา
4. ชำระเงิน: จ่ายเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยตามที่แจ้ง
5. รับทรัพย์สินคืน: หลังชำระเงินแล้ว จะได้รับทรัพย์สินคืนพร้อมใบเสร็จและบัตรประจำตัว

ใช้เวลาดำเนินการรวมประมาณ 12 นาที แบ่งเป็นการยื่นเอกสารและสแกนลายนิ้วมือรวมไม่เกิน 2 นาที การชำระเงินไม่เกิน 5 นาที และการรับทรัพย์คืนไม่เกิน 5 นาที

 

กรณีพิเศษที่อาจเกิดขึ้น

 

ตั๋วจำนำหาย : หากตั๋วจำนำสูญหาย สามารถดำเนินการได้ตามขั้นตอนดังนี้

 

1. แจ้งการสูญหายและแสดงบัตรประจำตัวต่อเจ้าหน้าที่
2. สแกนลายนิ้วมือเพื่อยืนยันตัวตน
3. รับใบแทนตั๋วจำนำเพื่อนำไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ
4. นำใบแทนตั๋วจำนำพร้อมใบแจ้งความกลับมาดำเนินการตามความประสงค์ต่อไป

 

ผู้ใช้บริการเสียชีวิต : แบ่งเป็น 2 กรณี

กรณีที่ 1: มีคำสั่งศาล ผู้จัดการมรดกต้องนำเอกสารมาติดต่อ ได้แก่:

• สำเนาคำสั่งศาลที่แต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดก
• ตั๋วรับจำนำ
• ใบมรณะบัตรพร้อมสำเนา
• สำเนาทะเบียนบ้านของผู้เสียชีวิตที่ประทับตรา "เสียชีวิต"
• บัตรประจำตัวประชาชนของผู้จัดการมรดกหรือผู้ดำเนินการแทนพร้อมสำเนา

 

กรณีที่ 2: ไม่มีคำสั่งศาล ทายาทต้องดำเนินการดังนี้:

• เตรียมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของทายาททุกคน
• สำเนาทะเบียนบ้านของทายาททุกคน
• หนังสือยินยอมจากทายาทมอบหมายให้ดำเนินการแทน
• สำเนารายงานบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดี
• ตั๋วรับจำนำ

จากนั้นนำเอกสารไปติดต่อกรมการปกครอง ฝ่ายควบคุมโรงรับจำนำ เพื่อขออนุญาตทำธุรกรรมแทนผู้เสียชีวิต

ช่องทางการติดต่อ

 

1. โทรศัพท์หมายเลข 02-281-7500 หรือเบอร์ของสถานธนานุเคราะห์ที่ให้บริการ
2. Line@ ภายใต้ชื่อ "สธค. โรงรับจำนำของรัฐ"
3. อีเมล: [email protected]
4. Facebook Page: สธค. โรงรับจำนำของรัฐ
5. เว็บไซต์: www.pawn.co.th