“ลดค่าไฟ 40 สตางค์” ทำอย่างไร ส่องแนวคิดพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาครมว.พลังงาน

15 ก.พ. 2568 | 08:29 น.

พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาคลั่นลดค่าไฟ 40 สตางค์สามารถทำได้ ชี้ต้องบริหารจัดการเชื้อเพลิงให้ดี แนะปรับพอร์ต Pool Gas ให้เป็นสัดส่วนชัดเจน ระหว่างการนำไปใช้ผลิตไฟฟ้าและการนำไปใช้ในอุตสาหกรรม

ลดค่าไฟ 40 สตางค์ต่อหน่วยสามารถทำได้ ประโยคเด็ดจากวาจาของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานที่เรียกเสียงฮือฮาได้ทั้งจากประชาชน และผู้ปฏิบัติงาน

แต่ประเด็นที่สำคัญก็คือแนวทางที่จะดำเนินการจะต้องทำอย่างไร ในเมื่อก่อนหน้านี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เพิ่งระบุว่าสามารถลดค่าไฟลงได้ 17 สตางค์จากการไปเลิกสัญญา Adder (ส่วนเพิ่มค่าไฟฟ้า) จากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก(เอสพีพี) และขนาดเล็กมาก(วีเอสพีพี)

ทั้งนี้ “ฐานเศรษฐกิจ” จะพาไปไขคำตอบถึงแนวทางที่นายพีระพันธุ์ จะใช้ว่าทำอย่างไร

นายพีระพันธุ์ ระบุว่า การปรับลดค่าไฟสามารถทำได้จากการบริหารจัดการเชื้อเพลิง เพราะปัจจุบันประเทศไทยใช้เชื้อเพลิงในการผลิตไฟอยู่ 3 แหล่งใหญ่คือ อ่าวไทย เมียนมาร์ และจากต่างประเทศ 

“ลดค่าไฟ 40 สตางค์” ทำอย่างไร ส่องแนวคิดพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาครมว.พลังงาน

โดยเฉพาะตะวันออกกลางที่นำเข้ามาเป็นก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG  ซึ่งมีราคาแพง และอิงราคาตลาดโลกที่ผันผวนตลอดเวลา  แต่ถ้าหากสามารถปรับพอร์ต Pool Gas ให้เป็นสัดส่วนชัดเจน ระหว่างการนำไปใช้ผลิตไฟฟ้าและการนำไปใช้ในอุตสาหกรรม ก็น่าจะทำให้ค่าไฟลดลงได้อีกถึงเกือบ 40 สตางค์ โดยจะเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อให้ทันค่าไฟงวดต่อไป

รวมถึงระบุด้วยว่า ปัญหาเรื่องค่าไฟต่างกับปัญหาเรื่องน้ำมันมากและมีประเด็นที่ต้องเข้ามาแก้ไขเยอะมาก โดยน้ำมันก็คือน้ำมัน แต่ค่าไฟไม่ใช่แค่ค่าไฟ คือค่าแก๊ส ค่าถ่านหิน ค่าขนส่ง ค่าอะไรต่าง ๆ ที่บวกไว้ในสัญญา ค่าบริหารจัดการเงินกู้ของผู้ประกอบการ 

และที่สําคัญคิดว่าทํายังไงจะให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กลับมาแข็งแรงและเป็นหลักให้กับประชาชนในเรื่องของการผลิตไฟฟ้า แล้วกําหนดค่าไฟที่ถูกต้องเป็นธรรมมากขึ้น

อย่างไรก็ดี ในส่วนของการปรับลดค่าไฟนั้น ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อหาแนวทางปรับลดค่าไฟมาตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2567 ที่ผ่านมา เพื่อหาทางปรับลดค่าไฟให้ได้ต่ำกว่า 4 บาทต่อหน่วย

และมีแนวโน้มว่าจะทำได้ แต่ต้องปรับปรุงแก้ไขโครงสร้างและหลักเกณฑ์หลายอย่าง โดยเฉพาะการปรับระบบ Pool Gas แต่เผอิญว่าต้นปี 2568 มีประเด็นเพิ่มเติมเรื่องจะให้ลดค่าไฟลงมาเหลือ 3.70 บาทต่อหน่วย และ กกพ. ซึ่งกำกับดูแลเรื่องค่าไฟ ก็ออกมาบอกว่าสามารถลดได้

ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะตลอดปี 2567 ที่ผ่านมา ต้องพยายามบริหารจัดการอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้มีการขึ้นค่าไฟทุก 4 เดือน  จนสามารถตรึงค่าไฟไว้ได้ที่ 4.18 บาทต่อหน่วยไว้ได้ตลอดปี แต่อย่างไรก็ดี ข้อเสนอล่าสุดของ กกพ. ก็มีประเด็นที่อาจทำไม่ได้