กกร. ชี้รัฐตัดไฟ 5 จุดเมียนมา สกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่กระทบค้าชายแดน

05 ก.พ. 2568 | 15:08 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ก.พ. 2568 | 15:32 น.

กกร. ชี้มาตรการภาครัฐตัดไฟ 5 จุดเมียนมาเพื่อสกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่มีผลกระทบต่อการค้าชายแดน ระบุโดนหางเลขเพียงบางสินค้าเท่านั้น เหตุเมียนมายังต้องการสินค้าจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศ

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยถึงกรณีที่รัฐบาลมีคำสั่งให้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ตัดกระแสไฟฟ้าที่ส่งไป 5 จุด ในเมียนมาว่า ผลกระทบจะค่อนข้างน้อยมาก เนื่องจากปัจจุบันเมียนมามีเหตุการณ์ความไม่สงบภายในประเทศ ส่งผลให้ประชากรยังมีความต้องการสินค้ามากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค 

ทั้งนี้ มองว่าคงจะมีเพียงสินค้าเฉพาะจุดมากกว่าที่อาจจะมีผลกระทบบ้างเล็กน้อย แต่ยอมรับว่าน้อยมาก

ขณะที่แนวทางการแก้ไขบัญชีม้าของสมาคมธนาคารไทยนั้น กกร.สนับสนุนแนวทางการยกระดับการจัดการบัญชีม้าดังกล่าว โดยจากการดำเนินการที่ผ่านมาทำให้มีการจัดการระงับบัญชีม้าไปแล้วกว่า 1.8 ล้านบัญชี และเตรียมออกมาตรการเพิ่มเติมในการจัดการบัญชีม้านิติบุคคลด้วย

กกร. ชี้รัฐตัดไฟ 5 จุดเมียนมาสกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไร้ผลกระทบการค้าชายแดน

นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า หลังเดินหน้ายุทธการปิดปากม้า พบว่าได้ผลดี แต่ระบบธนาคารต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากในการสร้างระบบกลางขึ้นมา 

รวมถึงการผลักดันให้เกิดกลไกต่าง ๆ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ซึ่งล่าสุดรัฐบาลมีคำสั่งให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)ตัดกระแสไฟฟ้าที่ส่งไป 5 จุด ในเมียนมา ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่รัฐบาลตั้งใจปราบปรามคอลเซ็นเตอร์

แต่หากดูถึงต้นน้ำก็ต้องดูส่วนในส่วนของเทเลคอมที่ต้องพิจารณาเรื่องซิมการ์ด ไปจนถึงปลายน้ำการเอาเงินออกคือคริปโตเคอเรนซี ดังนั้นหากทำอย่างเป็นระบบก็จะทำให้การแก้ไขปัญหามีประสิทธิภาพมากขึ้น

ด้านความคืบหน้าของ ร่าง พ.ร.ก.ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็นเรื่องภาครัฐ ส่วนความรับผิดชอบร่วมกันนั้นเห็นด้วย แต่ต้องครบทั้งระบบของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพราะขณะนี้ธนาคารเปรียบเสมือนแซนวิช อยู่ตรงกลาง โดยมีหน้าที่รับเงินโอนเข้ามาตั้งแต่ต้นน้ำ ซึ่งมองว่าต้องมีกลไกป้องกันตั้งแต่โอนเข้า จนถึงการระงับเงินโอนออกไปที่ปลายน้ำได้ด้วยเช่นกัน หวังว่าจะมีกลไกเหล่านี้เกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารใช้กลไกต่าง ๆ ตามขั้นตอนทางกฎหมายปกติ

"ตั้งแต่มาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้ สมาคมธนาคารไทย ทยอยปิดบัญชีม้าไปแล้วกว่า 1 ล้านบัญชี ควบคู่กับมาตรการปิดปากม้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จัดทำขึ้น ยอมรับว่า บัญชีม้าเกิดขึ้นทุกวันแต่ต้องมีกลไกควบคุมให้ได้” 

ส่วนกรณีบัญชีที่ถูกปิดแต่ยืนยันว่าบริสุทธิ์ จะต้องมีขั้นตอนยืนยันตัวตนและพิสูจน์ตัวตนที่เข้มข้นขึ้น อาจจะส่งผลให้ผู้ใช้บริการไม่สะดวกสบายบ้าง