นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้วิเคราะห์สถานการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่เดือนธันวาคม 2567 และภาพรวมตลอดปี 2567 พบว่า เดือนธันวาคม 2567 มีธุรกิจจัดตั้งใหม่ 4,377 ราย เพิ่มขึ้น 368 ราย (9.18%) เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 (4,009 ราย) และทุนจดทะเบียน 22,895 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,281 ล้านบาท (46.63%) เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 (15,614 ล้านบาท)
ทั้งนี้ เดือนธันวาคม 2567 มีนิติบุคคลที่จดทะเบียนทุนสูงเกิน 1,000 ล้านบาท จำนวน 1 ราย คือ บริษัท แอ็กซ์ตร้า โกรท พลัส จำกัด ทุนจดทะเบียน 8,390 ล้านบาท ประกอบกิจการโฮลดิ้ง
ขณะเดียวกัน ธุรกิจที่มีการจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 329 ราย ทุนจดทะเบียน 1,349 ล้านบาท ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 309 ราย ทุนจดทะเบียน 650 ล้านบาท ธุรกิจการออกอากาศทางวิทยุกระจายเสียง (ยกเว้นออนไลน์) จำนวน 226 ราย ทุนจดทะเบียน 108 ล้านบาท
นางอรมน กล่าวต่อว่า การจัดตั้งธุรกิจใหม่ทั้งปี 2567 มีจำนวน 87,596 ราย เพิ่มขึ้น 2,296 ราย (2.69%) เมื่อเทียบกับปี 2566 (85,300 ราย) ทุนจดทะเบียน 285,745 ล้านบาท ลดลง 276,724 ล้านบาท (49.20%) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 (562,470 ล้านบาท)
สำหรับธุรกิจที่มีการจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 6,636 ราย ทุนจดทะเบียน 14,881ล้านบาท ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 6,542 ราย ทุนจดทะเบียน 30,323 ล้านบาท และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 4,025 ราย ทุนจดทะเบียน 8,120 ล้านบาท
นอกจากนี้ ตลอดทั้งปี 2567 มีนิติบุคคลจัดตั้งใหม่ที่มีทุนจดทะเบียนสูงเกิน 1,000 ล้านบาท จำนวน 15 ราย ทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 45,558 ล้านบาท เช่น ธุรกิจ Data Center, รับเหมาก่อสร้างอาคาร, ค้าส่งและค้าปลีก และโรงพยาบาล เป็นต้น
ขณะที่ การจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการเดือนธันวาคม 2567 มีจำนวน 6,065 ราย เพิ่มขึ้น 543 ราย (9.83%) เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 (5,522 ราย) และมีทุนจดทะเบียนเลิก 35,102 ล้านบาท ลดลง 17,226 ล้านบาท (32.92%) เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 (52,328 ล้านบาท) โดยมีธุรกิจเลิกประกอบกิจการที่ทุนจดทะเบียนสูงเกิน 1,000 ล้านบาท จำนวน 3 ราย คิดเป็นทุนจดทะเบียน 15,571 ล้านบาท
สำหรับประเภทธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 536 ราย ทุนจดทะเบียนเลิก 925 ล้านบาท ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 300 ราย ทุนจดทะเบียนเลิก 2,175 ล้านบาท และ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 205 ราย ทุนจดทะเบียนเลิก 468 ล้านบาท
ทั้งนี้ การจดทะเบียนเลิกทั้งปี 2567 มีจำนวน 23,679 ราย เพิ่มขึ้น 299 ราย (1.28%) เมื่อเทียบกับปี 2566 (23,380 ราย) ทุนจดทะเบียนเลิกสะสมอยู่ที่ 171,180 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11,124 ล้านบาท (6.95%) เมื่อเทียบกับปี 2566 (160,056 ล้านบาท)
ขณะที่ ธุรกิจที่มีการจดทะเบียนเลิกสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 2,146 ราย ทุนจดทะเบียน 4,761 ล้านบาท 2) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 1,238 ราย ทุนจดทะเบียน 16,885 ล้านบาท และ 3) ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 805 ราย ทุนจดทะเบียน 1,994 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 9.06% 5.23% และ 3.40% ของจำนวนการจัดตั้งธุรกิจในเดือนปี 2567 ตามลำดับ
สำหรับการจดทะเบียนเลิกของนิติบุคคลที่มีทุนจดทะเบียนสูงเกิน 1,000 ล้านบาท ในปี 2567 มีจำนวน 13 ราย ทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 85,839 ล้านบาท เช่น ธุรกิจโทรคมนาคม, ขายสิทธิการเช่าห้องชุดพักอาศัย/ให้เช่าห้องชุดพักอาศัย, โรงงานผลิต ซื้อ และจำหน่าย ให้เช่าเทปคาสเซ็ท แผ่นเสียง แถบบันทึกเสียงฯ, และบริการเงินอิเล็กทรอนิกส์เพื่อใช้ชำระค่าสินค้าหรือบริการ เป็นต้น
ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567) มีธุรกิจที่จดทะเบียนนิติบุคคลรวมทั้งสิ้น 1,964,829 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 30.56 ล้านล้านบาท โดยมีนิติบุคคลดำเนินกิจการอยู่จำนวน 928,290 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 22.40 ล้านล้านบาท แบ่งออกเป็น
ภาพรวมของสถิติการจดทะเบียนจัดตั้งและจดเลิกในปี 2567 ยังอยู่ในทิศทางที่ดี ส่งผลบวกมาจากปัจจัยการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยวในช่วง high season นักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มมากขึ้น สร้างการจ้างงานมากขึ้น สำหรับจำนวนธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งใหม่ในปี 2567 (87,596 ราย) ถือเป็นตัวเลขสูงสุดตั้งแต่มีการเปิดให้บริการจดทะเบียน
โดยกรมฯ ได้คาดการณ์ตัวเลขการจดทะเบียนธุรกิจใหม่ปี 2568 จะเพิ่มขึ้น 2-4% จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 90,000-95,000 ราย ในขณะที่ยังคงต้องจับตาสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อการจัดตั้งธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโดยรวมโลก สงครามทางการค้าและผลที่จะเกิดขึ้นจากนโยบายภายใต้ทรัมป์ 2.0 ที่อาจสร้างความวิตกกังวลให้กับผู้ลงทุนและผู้เริ่มต้นธุรกิจได้