วันนี้ (24 มกราคม 2568) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพิ่มเติม วงเงิน 5,261.04 ล้านบาท เพื่อจ่ายเป็นเงินเยียวยาน้ำท่วม เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยครัวเรือนละ 9,000 บาท
สำหรับเหตุผลของการขอเสนองบประมาณเยียวยาน้ำท่วมครั้งนี้ เป็นผลมาจากที่ในช่วงฤดูฝน ปี 2567 ที่ผ่านมาได้สร้างความเสียหายและส่งผลกระทบต่อประชาชนประสบอุทกภัยในวงกว้างทั่วประเทศ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติงบประมาณเพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือครัวเรือนละ 9,000 บาท ไปแล้ว 2 รอบ ในการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 และ 8 ตุลาคม 2567 วงเงิน 3,045.51 ล้านบาท และ ครม. เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 วงเงิน 5,039.79 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะหน่วยงานหลักดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาแก่ผู้ประสบภัย ได้รวบรวมมูลการดำเนินงานแล้วพบว่า ภายหลังที่ ครม. มีมติเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 แล้ว ยังคงเกิดภัยพิบัติต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงปลายปี 2567 ที่ได้เกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
จึงมีครัวเรือนลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือเพิ่มขึ้น และเกินกว่ากรอบวงเงินที่เสนอให้การช่วยเหลือไป 620,022 ครัวเรือน ประกอบกับจังหวัดระนองได้เกิดมีฝนตกในหลายพื้นที่ มีครัวเรือนที่ได้รับ ระหว่างวันที่ 3 พฤศจิกายน – 31 ธันวาคม 2567 รวม 1,136 ครัวเรือน
ดังนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย จึงได้กำชับให้ ปภ. ตรวจสอบข้อมูลผู้ประสบภัยให้ครบถ้วน ไม่ให้ประชาชนที่เดือดร้อนตกหล่น ซึ่งตอนนี้ ปภ. ได้รวบรวมข้อมูลแล้วกำลังเตรียมเสนอ ครม. อนุมัติงบกลางเพิ่มเติม 5,261.04 ล้านบาท เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยครัวเรือนละ 9,000 บาท ให้ทั่วถึงและเป็นธรรมต่อไป
โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การขอสนับสนุนงบประมาณครั้งนี้จะเป็นการจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยใน 17 จังหวัด ประกอบด้วย 16 จังหวัดเช่นเดียวกับ ครม. เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ได้แก่ จังหวัดชัยนาท บุรีรัมย์ สมุทรสาคร สิงห์บุรี กระบี่ ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี ประจวบศรีขันธ์ พัทลุง ยะลา สงขลา สตูล และจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเพิ่มจังหวัดระนอง