วันนี้ ( 17 มกราคม 2568) ณ โถงกลางประตู 1 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดชมห้องตัวอย่าง และจองสิทธิ์โครงการบ้านเพื่อคนไทย ตามนโยบายรัฐบาลที่มีแนวคิดว่าการมีบ้านเป็นของตนเองจะช่วยให้ประชาชนสามารถพัฒนาตนเองและครอบครัวได้อย่างมั่นคง
อีกทั้งยังส่งเสริมเศรษฐกิจโดยรวม รัฐบาลจึงเลือกใช้พื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่ตั้งอยู่ตามแนวเส้นทางรถไฟ ซึ่งสะดวกต่อการเดินทาง และมีการเชื่อมโยงกับโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายในอนาคต ซึ่งมีเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ คือ ผู้สมัครต้องเป็นผู้ไม่มีบ้านหลังแรก และยังไม่เคยขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน เพื่อป้องกันการเก็งกำไรในอนาคต
นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานพิธีเปิดชมห้องตัวอย่าง และจองสิทธิ์โครงการบ้านเพื่อคนไทยว่า คนไทยกว่า 5.87 ล้านครอบครัว หรือคิดเป็นประมาณ 27% ไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง รัฐบาลจึงได้เน้นย้ำเรื่องของการช่วยเหลือสนับสนุนพี่น้องประชาชน ผ่านการดำเนินนโยบายที่จะดูแลประชาชนทุกกลุ่มให้เข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ หรือทำให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีและมั่นคงขึ้น
ทั้งนี้โครงการบ้านเพื่อคนไทยจะช่วยสนับสนุนผู้ที่เริ่มทำงาน First Jobber หรือคนที่อยู่ในวัยทำงานที่กำลังพยายามเก็บเงินซื้อบ้าน มีบ้านเป็นของตัวเอง บนทำเลใกล้รถไฟฟ้า เพื่อประหยัดเวลาในการเดินทางไปทำงาน ทำให้มีแรงกาย แรงใจในการทำงานเพื่อขับเคลื่อน และพัฒนาประเทศ และเพื่อให้พี่น้องคนไทยทุกคนมีกิน มีใช้ มีเกียรติ และมีศักดิ์ศรี
สำหรับบ้านเพื่อคนไทยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับชีวิตของพี่น้องประชาชน ทำให้ประชาชนมีที่ดินเป็นของตัวเอง มีที่อยู่อาศัยอย่างปลอดภัย เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องการจะมอบให้ประชาชน หลังจากนี้จะมีการให้ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับประชาชนที่สนใจโครงการบ้านเพื่อคนไทยผ่านช่องทางต่าง ๆ ของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ขอให้ประชาชนติดตาม Social Media ของรัฐบาลไว้ เพื่อให้ประชาชนไม่พลาดข้อมูลสำคัญ นอกจากนั้น ประชาชนยังสามารถเดินทางเข้ารับชมบ้านตัวอย่าง ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 31 มกราคมนี้
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ทำพิธีเปิดชมห้องตัวอย่าง และจองสิทธิ์โครงการบ้านเพื่อคนไทย ก่อนไปรับชมห้องตัวอย่าง และโมเดลบ้าน ณ บริเวณโถงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
สำหรับโครงการบ้านเพื่อคนไทยช่วยเพิ่มการใช้ประโยชน์จาก ที่ดินของ รฟท. ที่เคยรกร้างว่างเปล่าหรือถูกใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจและสร้างชุมชนที่มีคุณภาพโดยการวางแผนที่อยู่อาศัยถึง 100,000 ยูนิตในรูปแบบคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยวจะช่วยกระตุ้น GDP ของประเทศรวมถึงสร้างโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงที่อยู่อาศัยในราคาที่เอื้อมถึงได้