รายงานข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์(16 ม.ค. 2568) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายนายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงที่รัฐสภาเรื่องการแก้ไขปัญหาทุเรียนจีนขอใบ test report สาร Basic Yellow2
นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า วันนี้อธิบดีกรมวิชาการเกษตรได้มีหนังสือถึงสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) เพื่อแจ้งรายชื่อห้องปฏิบัติการที่ได้รับการยอมรับความสามารถในการทดสอบสาร Basic Yellow 2 (BY2) ในทุเรียนผลสดส่งออกจากไทยไปสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 6 แห่ง ได้แก่
1.บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด สาขาเชียงใหม่
2.บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด สาขาสงขลา
3.บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด สาขากรุงเทพฯ
4.บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด สาขาฉะเชิงเทรา
5.บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด สาขาสมุทรสาคร
6.บริษัท ศูนย์ห้องปฏิบัติการและวิจัยทางการแพทย์และการเกษตรแห่งเอเซีย จำกัด (มหาชน) (AMARC)
ห้องปฏิบัติการข้างต้นพร้อมให้บริการตรวจวิเคราะห์สาร Basic Yellow 2 และแคดเมียม ได้ภายในวันศุกร์นี้ (17 ม.ค. 2568) และมีศักยภาพในการตรวจวิเคราะห์ รวมกันได้ 700 ตัวอย่างต่อวัน โดยการตรวจวิเคราะห์จะใช้เวลาประมาณ 48 ชั่วโมง คาดว่า ไทยจะส่งออกทุเรียน พร้อมมี test report สาร Basic Yellow 2 และแคดเมียม ได้ในวันจันทร์ที่ 20 มกราคมนี้
อีกทั้ง ในสัปดาห์หน้าจะมีห้องปฏิบัติการ เพิ่มอีก 4 แห่ง ซึ่งจะทำให้มีศักยภาพในการให้บริการตรวจวิเคราะห์สาร Basic Yellow2 และแคดเมียม รวมกันได้เพิ่มอีก 600 ตัวอย่างต่อวัน จึงสามารถรองรับตัวอย่างการตรวจวิเคราะห์ทุเรียนรวมกันได้กว่า 1,300 ตัวอย่างต่อวัน สามารถรับมือกับการส่งออกทุเรียนภาคตะวันออกและภาคใต้ ได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ได้กำหนด มาตรการ "4 ไม่" เพื่อควบคุมคุณภาพทุเรียนไทย ปี 2568 ได้แก่ 1.ไม่อ่อน 2.ไม่หนอน 3.ไม่สวมสิทธิ์ และ 4.ไม่มีสี ไม่มีสารเคมีต้องห้าม มีเป้าหมาย “Set Zero” การใช้สี การใช้สารเคมีในโรงคัดบรรจุทั้งหมด
“หากสารวัตรเกษตร มีการตรวจพบสาร BY2 และสารเคมีที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนจะยกเลิกหนังสือสำคัญแสดงการขึ้นทะเบียนโรงงานผลิตสินค้าพืช (DOA) และถ้าสารวัตรเกษตร และสารวัตร GMP ตรวจพบแล้วไม่ดำเนินคดี ก็ต้องจัดการเช่นเดียวกัน ผมย้ำเตือนขอให้รองอธิบดีกำกับ และผู้อำนวยการเขตต่าง ๆ ถ้าลูกน้องมีพฤติกรรมเห็นแล้วไม่เตือน หรือไม่ดำเนินคดี ในฐานะอธิบดีกรมวิชาการเกษตรก็จะดำเนินคดีทางกฎหมายกับเจ้าหน้าที่รัฐ เช่นเดียวกัน” นายรพีภัทร์ กล่าว