บอร์ด IRPC ตั้ง “กฤษณ์ อิ่มแสง” นั่งแท่น CEO คนใหม่

26 ก.ย. 2565 | 14:22 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ก.ย. 2565 | 21:22 น.
813

บอร์ด IRPC ตั้ง “กฤษณ์ อิ่มแสง” นั่งแท่น CEO คนใหม่ คนที่ 7 ระบุมีผล 1 ต.ค. 65 แทนที่ นายชวลิต ทิพพาวนิช ซึ่งแจ้งลาออกเนื่องจากเกษียณอายุ

ที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC ได้มีมติแต่งตั้งนายกฤษณ์ อิ่มแสง ดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ (CEO) พร้อมทั้งแต่งตั้งเป็น กรรมการ และเลขานุการคณะกรรมการ

 

ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2565 เป็นต้นไป เพื่อทดแทนนายชวลิต ทิพพาวนิช  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ที่ได้แจ้งการลาออกเนื่องจากเกษียณอายุ

 

สำหรับปัจจุบันนายกฤษณ์ อายุ 57 ปี ดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)  มีประสบการณ์และผ่านภารกิจในการกำกับดูแล และกำหนดทิศทางให้กับกลุ่มธุรกิจที่สำคัญของ ปตท. และบริษัทในกลุ่มปตท. ดังนี้                                        

  • ประธานกรรมการ/ ประธานกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน / กรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดี  บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)
  • ประธานกรรมการ บริษัท พีทีทีแทงค์ เทอร์มินัล จำกัด
  • ประธานกรรมการ บริษัท สานพลัง วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด
  • กรรมการ/ กรรมการสรรหา และกำหนดค่าตอบแทน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)
  • รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริหารกลยุทธ์กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)    
  • รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กำกับดูแลองค์กรและกิจการสัมพันธ์ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
  • รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริหารองค์กรและความยั่งยืน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)    
  • รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทรัพยากรบุคคลและศักยภาพองค์กร บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)
  • กรรมการบริหาร โรงเรียนกำเนิดวิทย์ (KVIS)

ด้านประวัติการศึกษา นายกฤษณ์ จบปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (วิศวกรรมโยธา) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย                                                   

 

นายกฤษณ์ CEO คนที่ 7 ของ IRPC จะเข้ามาขับเคลื่อนองค์กรโดยการเพิ่มขีดความสามารถในการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจ ด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุควิถีใหม่

 

และการเป็นมากกว่าผู้นำธุรกิจปิโตรเคมีและโรงกลั่นน้ำมัน ที่สร้างมูลค่าเพิ่มจากธุรกิจปิโตรเลียมและปิโตรเคมี ด้วยการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อสร้างความสมดุลของการดำเนินธุรกิจ ภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี  

 

มีธรรมาภิบาล รวมทั้งคำนึงถึงสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม และนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์การสร้างสรรค์นวัตกรรมการใช้วัสดุและพลังงาน เพื่อชีวิตที่ลงตัว