"เวียดนาม" ลุยสร้างแบรนด์ทุเรียนครั้งใหญ่ เล็งแบ่งเค้ก “ไทย-มาเลย์” ในจีน

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต. / ทูตพาณิชย์) ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เผยโดยอ้างอิงข้อมูลจาก https://vietnamnet.vn/  ว่า  เวียดนามได้ส่งออกทุเรียนสดไปยังจีนเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ และมีแนวโน้มจะมีปริมาณมากขึ้นในอนาคต แม้ว่าจะมีการแข่งขันจากไทยและมาเลเซีย

หลายปีที่ผ่านมา ผลไม้ของเวียดนามส่งออกไปยังประเทศจีนอย่างไม่เป็นทางการ แต่ช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้อนุมัติ 76 รายการ จากพื้นที่เพาะปลูกทุเรียนในเวียดนาม และ 25 รายสำหรับบริษัทบรรจุภัณฑ์ โดยบริษัท Van Xuan Phat Import-Export ได้ส่งออกทุเรียนไปยังประเทศจีนจำนวน 3 ตู้คอนเทนเนอร์ มีปริมาณ 1,000 ตัน ในทุกเดือน

นาย ฮา ญี จูง (Ha Duy Trung) เจ้าของแบรนด์ทุเรียน 9 Phe  กล่าวว่า การได้รับอนุญาตให้ส่งออกอย่างเป็นทางการ เป็นโอกาสที่ดีอย่างมากสำหรับทุเรียนเวียดนาม คาดการณ์ว่า ในอีก 5 หรือ 10 ปีข้างหน้า การส่งออกทุเรียนของเวียดนามไปยังประเทศจีนจะเพิ่มมากยิ่งขึ้น

ศุลกากรจีน ระบุว่า  ในปี 2564 จีนนำเข้าทุเรียนสด 821,600 ตัน มูลค่า 4,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 82 ซึ่งสูงที่สุด เมื่อเทียบกับผลไม้อื่น ๆ  คาดการณ์ในปี 2565 การนำเข้าทุเรียนสดของจีนจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 เวียดนามส่งออกผลไม้ไปจีนมูลค่า 2,860 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 123 โดยจีนเป็นตลาดใหญ่สุดของเวียดนาม อย่างไรก็ตาม เพื่อให้มีฐานที่มั่นคงในจีน ทุเรียนเวียดนามจะต้องผ่านอุปสรรคมากมาย

ผู้ส่งออกกล่าวว่า เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวที่มีอยู่ในเวียดนามสามารถรักษาคุณภาพได้เพียง 3- 4 วัน คุณภาพกลายเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากจีนเริ่มเข้มงวดมากขึ้นในการกักกันพืช ความปลอดภัยและสุขอนามัยของอาหาร นอกจากนี้เวียดนามยังต้องสร้างแบรนด์ทุเรียนที่แข็งแกร่ง เพื่อแข่งขันกับแบรนด์ทุเรียนของไทยและมาเลเซียในจีน

นาย เหงียน วู๊ ทั้งห์ (Nguyen Vu Thang) ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของ Van Xuan Phat Import-Export Company กล่าวว่า ทุเรียนของไทยเป็นที่นิยมมากที่สุดในประเทศจีน ในขณะที่เวียดนามไม่มีแบรนด์ทุเรียนที่แข็งแกร่ง เวียดนามจำเป็นต้องมีนโยบายในการส่งเสริมการส่งออกทุเรียนไปยังจีน เพื่อสามารถแข่งขันกับทุเรียนไทยและมาเลเซียได้ทางบริษัทมีแผนที่จะแปรรูปผลไม้เพื่อสร้างรายได้ที่มากขึ้น

ทั้งนี้ตลาดจีนจะมีการแข่งขันมากขึ้น เนื่องจากลาว กัมพูชา และฟิลิปปินส์ก็จับตาดูเช่นกัน นอกจากนี้บริษัทจีนกำลังพยายามปลูกผลไม้ในมณฑลยูนนาน ไห่หนาน และกวางสีและไม่หยุดปลูกแม้จะไม่สำเร็จหลายครั้งก็ตาม