“เฉลิมชัย” สั่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ ยกระดับราคาข้าวไทย-เวียดนาม

03 ก.ย. 2565 | 12:03 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ก.ย. 2565 | 22:39 น.

เกษตรฯ ไทย-เวียดนาม ยกระดับราคาข้าว “เฉลิมชัย” สั่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ หลังจากพอใจผลการเจรจาความร่วมมือ พร้อมระดมพลครั้งใหญ่จัดประชุมสมาคมชาวนาสันนิบาตสหกรณ์สมาคมโรงสีสมาคมผู้ส่งออกข้าวสภาธุรกิจไทย-เวียดนามหอการค้าไทยและสภาอุตสาหกรรมฯเป็นการด่วน

“เฉลิมชัย” สั่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ ยกระดับราคาข้าวไทย-เวียดนาม

 

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยวันนี้ว่า พอใจกับผลการเจรจาขยายความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามโดยเฉพาะความตกลงในการยกระดับราคาข้าวในตลาดโลกที่มีความคืบหน้าสามารถตกลงกันได้อย่างเป็นรูปธรรมเป็นครั้งแรกโดยจะเดินหน้าต่อทันที ทั้งนี้จะมีการแต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจระดับสูงที่มีนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ. เป็นประธานทำหน้าที่ประสานงานการขับเคลื่อนความร่วมมือดังกล่าวและตนได้สั่งการให้จัดประชุมระหว่างกระทรวงเกษตรฯกับสมาคมชาวนา

 

“เฉลิมชัย” สั่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ ยกระดับราคาข้าวไทย-เวียดนาม

ชุมนุมสหกรณ์การเกษตร สันนิบาตสหกรณ์ สมาคมโรงสีข้าว สมาคมผู้ค้าข้าว สมาคมผู้ส่งออกข้าว สภาธุรกิจไทย-เวียดนาม หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อชี้แจงและรับฟังข้อเสนอแนะเกี่ยวกับถึงความตกลงระหว่างไทยกับเวียดนามรวมทั้งปรึกษาหารือถึงก้าวต่อไปทั้งเรื่องแนวทางและแผนดำเนินการในส่วนของฝ่ายไทยซึ่งทุกภาคีภาคส่วนจะต้องมาผนึกกำลังทำงานร่วมกันเพื่ออนาคตที่ดีกว่าของชาวนาและประเทศชาติ ความร่วมมือครั้งนี้เป็นโอกาสดีที่สุด

“เฉลิมชัย” สั่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ ยกระดับราคาข้าวไทย-เวียดนาม

ถือเป็นบันไดขั้นแรกของความพยายามร่วมกันระหว่างไทยและเวียดนามที่จะช่วยเหลือชาวนาให้ได้ราคาข้าวที่เป็นธรรมจากกลไกการค้าข้าวในตลาดโลกโดยเฉพาะในภาวะที่ต้องเผชิญกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นเช่นราคาปุ๋ย ราคายาและราคาน้ำมันรวมทั้งวัตถุดิบอาหารสัตว์จากผลกระทบของวิกฤติซ้อนวิกฤติคือวิกฤติโควิด19และสงครามรัสเซีย-ยูเครนแต่ราคาข้าวปรับตัวน้อยมากไม่สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตข้าว

 

 

“ในส่วนของรัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายให้ความสำคัญกับชาวนามาโดยตลอดทำทุกอย่างเพื่อดูแลชาวนาไม่ว่าจะเป็นโครงการประกันรายได้ชาวนา การมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาโควิดครัวเรือนละ 1.5 หมื่นล้านบาท การสนับสนุนปัจจัยการผลิต การยกระดับนาแปลงใหญ่ การพัฒนาพันธุ์ข้าวใหม่ๆ การแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม การส่งเสริมเครื่องจักรกลและเทคโนโลยีเกษตรเพื่อเพิ่มผลผลิตลดต้นทุน เป็นต้น และล่าสุดคือการผนึกความร่วมมือระหว่างไทยกับเวียดนามในฐานะประเทศผู้ส่งออกข้าวอันดับ2และอันดับ3ของโลกเพื่อต่อสู้ต่อรองยกระดับราคาข้าวในเวทีโลก”รัฐมนตรีเกษตรฯ.กล่าวในที่สุด