น้ำมัน WTI ลดลง 0.5% ปิดที่ 121.51 ดอลล์ กังวลจีนกลับมาล็อกดาวน์

10 มิ.ย. 2565 | 06:48 น.
อัปเดตล่าสุด :10 มิ.ย. 2565 | 13:49 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (9 มิ.ย.) ตลาดถูกกดดันหลังมีรายงานข่าวที่ว่า นครเซี่ยงไฮ้ประกาศล็อกดาวน์พื้นที่บางส่วนเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 60 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 121.51 ดอลลาร์/บาร์เรล
          
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 51 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 123.07 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

เทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ประกาศว่าจะล็อกดาวน์เขตหมินหัง ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเซี่ยงไฮ้ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยการล็อกดาวน์จะเริ่มตั้งแต่ช่วงเช้าวันเสาร์นี้ (11 มิ.ย.) และสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านเป็นเวลา 2 วัน เพื่อปูพรมตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นวงกว้าง

         

แม้การล็อกดาวน์เขตหมินหังจะเป็นมาตรการในวงแคบ แต่ก็ทำให้เกิดความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อการเปิดเมืองของเซี่ยงไฮ้ นอกจากนี้ ประชาชนในเขตหมินหังก็มีความเสี่ยงที่จะถูกสั่งให้อยู่แต่ในบ้านต่อไปอีก 2 สัปดาห์ หากมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อ
         

อย่างไรดี สัญญาน้ำมันดิบ WTI ยังคงเคลื่อนไหวเหนือระดับ 120 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่าสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 800,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะพุ่งขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล

ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าความต้องการเชื้อเพลิงในสหรัฐยังคงเพิ่มขึ้น แม้ราคาน้ำมันเบนซินที่สถานีบริการพุ่งขึ้นอย่างมากก็ตาม โดยข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตยานยนต์อเมริกา (AAA) ระบุว่า ราคาน้ำมันเบนซินพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.955  ดอลลาร์/แกลลอนในวันพุธที่ผ่านมา
         

นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า ยอดส่งออกเดือนพ.ค.ของจีนขยายตัว 16.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งแข็งแกร่งกว่าในเดือนเม.ย.ที่ปรับตัวขึ้นเพียง 3.9% และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 8%