โลกช็อก “อาร์เจนตินา” ระงับการส่งออกถั่วเหลือง สิ้นปี 2565

แหล่งข่าววงการค้าพืชไร่ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”  ถึงความเคลื่อนไหว สถานการณ์ตลาดชิคาโก หรือ Chicago Mercantile Exchang (CME) และ Chicago Board of Trade  (CBOT) ตลาดชิคาโก ณ วันศกร์ที่ 18 มีนาคม 2022 การเจรจาหว่าง ปธน.โจ ไบเดน กับ ปธน.สี จิ้นผิง เกี่ยวกับยูเครนสิ้นสุดลงโดยไม่มีเรื่องน่าประหลาดใจอย่างมากเกิดขึ้น, ยังไม่มีความไม่ชัดเจนของการเจรจาสันติภาพในรอบที่ 4 ของสงครามรัสเซีย-ยูเครนเพิ่มเติม, มีรายงานการส่งออกสินค้าเกษตรของรัสเซียจากท่าเรือในเขตทะเลดำอย่างต่อเนื่อง, ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าจากแนวโน้มที่จะมีการขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 6 ครั้งในปีนี้

แม้จะมีข่าวแนวโน้มภัยแล้งในพื้นปลูกของสหรัฐสำหรับฤดูเพะปลูกใหม่ปี 2022/23 ไม่รวมถึงปัญหาภัยแล้งที่กำลังคุกคามทวีปอเมริกาใต้อยู่ในขณะนี้ ทำให้สัญญาพลิกร่วงลงสู่แดนลบยกกระดาน สวนทางกับเมื่อวานนี้ที่ปิดบวกยกกระดาน

ข้าวโพด: สัญญาพลิกร่วงลงสู่แดนลบในวันสุดท้ายของสัปดาห์, อาร์เจนตินาเริ่มเก็บเกี่ยวข้าวโพดและถั่วเหลืองผลผลิตปี 2021/22 แล้วและคาดว่าผลผลิตจะลดลงจากสภาวะ ลานีญา ที่ทำให้ผลผลิตข้าวโพดลดลงจาก 2.09 สู่ระดับ 2.01 พันล้านบุชเชล และถั่วเหลืองลดลงจาก 1.60 สู่ระดับ 1.54 พันล้านบุชเชล

ถั่วเหลือง: ราคาถั่วเหลืองพลิกร่วงลงสู่แดนลบ หลังจากเมี่อวานนี้ดีดตัวขึ้นจากข่าวที่อาร์เจนตินาระงับการส่งออกถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จนสิ้นปี 2021/22 ขณะที่มีรายงานว่าการปลูกถั่วเหลืองปีหน้า 2022/23 ของอาร์เจนตินาจะลดลงด้วยต้นทุนปุ๋ยที่สูงขึ้นและมีปริมาณจำกัด เช่นเดียวกับบราซิลที่กำลังพยายามขยายพื้นที่ปลูกถั่วเหลืองอีก 2.5 - 3.7 ล้านเอเคอร์ในปี 2022/23 เช่นกัน Agroconsult ประเมินว่าภัยแล้ง ปัญหาราคาปุ๋ยที่เพิ่มขึ้นและหาได้ยาก จะทำให้ผลผลิตปีหน้า 2022/23 ของบราซิลลดลง 11% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 4.59 พันล้านบุชเชล

"ข้าวสาลี" : สัญญาพลิกร่วงลงสู่แดนลบนำตลาด ด้วยเงินดอลลาร์แข็งค่าและไม่มีลูกค้าเข้ามาในตลาดสหรัฐ, IGC แจ้งว่ารัสเซียยังส่งออกข้าวสาลีผ่านท่าเรือในเขตทะเลดำ แม้จะถูกคว่ำบาตรการค้าและระบบการเงิน SWIFT รวมทั้งการประกันภัยสินค้าทางทะเล ซึ่งจะทำให้รัสเซียส่งออกธัญพืชลดลง 2% สู่ระดับ 37.1 ล้านตันในปี 2021/22 นี้ แต่คาดว่าการส่งออกของยูเครนจะลดลงเป็นอย่างมาก, ตุรกีเสนอซื้อข้าวสาลี 9.6 ล้านบุชเชล optional origin และมีสิทธิรับซื้อหรือยกเลิกการซื้อได้ เพื่อส่งมอบปลายเดือนนี้ถึงปลายเดือนหน้า

เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากการที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์เสนอให้ขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากถึง 12 ครั้งในปีนี้เพื่อสะกัดเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี หลังจากมีคาดการณ์ก่อนหน้าว่าจะมีการขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 6 ครั้งในปีนี้ โดนต้องการให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับ 3% จากที่เคยอยู่ระดับใกล้ 0% มาอย่างยาวนาน, วันนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.153% ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลอาย 30 ปี ผลตอบแทนฯปรับตัวลงสู่ระดับ 2.43% โดยราคาซื้อพันธบัตรกับอัตราดอกเบี้ยจะสวนทางกัน ด้วย

นักลงทุนจับตาผลการประชุมสันติภาพระหว่างสหรัฐ-ยูเครน ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ 4 ของรอบที่ 4 ที่มีความคีบหน้ามากขึ้นดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,754.93 จุด เพิ่มขึ้น +274.17 จุด หรือ +0.80%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,463.12 จุด เพิ่มขึ้น +51.45 จุด หรือ + 1.17% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 13,893.84 จุด เพิ่มขึ้น + 279.06 จด หรือ + 2.05% ดัชนีตลาดขยับขึ้นปิดบวกทั้งกระดานเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากการเจรจาหว่าง ปธน.โจ ไบเดน กับ ปธน.สี จิ้นผิง เกี่ยวกับยูเครนสิ้นสุดลงโดยไม่มีเรื่องน่าประหลาดใจอย่างมากเกิดขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย.เพิ่มขึ้น + 1.72 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 104.70 ดอลลาร์/บาร์เรล น้ำมันดิบ WTI ยังขยับขึ้นต่อด้วยคาดการณ์ว่ารัสเซียจะส่งออกน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ในเดือน เม.ย.ลดลงรวม 3 ล้านบาร์เรล ขณะที่ความต้องการในตลาดลดลงเพียง 1 ล้านบาร์เรล และตลอดสัปดาห์นี้ราคาปรับลดลง 4.2% จากราคา 109.33 ดอลลาร์/บาร์เรลในวันศุกร์ที่ 11, ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์BRENT) ส่งมอบเดือน พ.ค.เพิ่มขึ้น + 1.29 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 107.93 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่สัปดาห์นี้ลดลง 4.2%

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange Market) ส่งมอบเดือน เม.ย.ลดลง -13.9 ดอลลาร์ หรือ 0.72% ปิดที่ 1,929.3ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและสัปดาห์นี้ร่วงลงราว 2.8% จากราคา 1,985 ดอลลาร์ในวันศุกร์ที่ 11 มี.ค.