โรงงานน้ำตาล คาดปิดหีบอ้อยฤดูการผลิตปีนี้ไม่เกินกลางเดือนมีนาคม

25 ก.พ. 2565 | 16:44 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ก.พ. 2565 | 23:44 น.
546

โรงงานน้ำตาล คาดปิดหีบอ้อยฤดูการผลิตปีนี้ไม่เกินกลางเดือนมีนาคม หลังเปิดรับผลผลิตแล้ว 79 วัน มีอ้อยเข้าหีบ 69.72 ล้านตัน ผลิตน้ำตาลได้ 75.05 ล้านกระสอบ

นายสิริวุทธิ์  เสียมภักดี รองประธานคณะกรรมการ บริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด หรือ TSMC เปิดเผยว่า ภาพรวมฤดูการหีบอ้อยประจำปี 2564/65 หลังจากที่โรงงานทั้ง 57 โรงได้เริ่มทยอยเปิดรับผลผลิตอ้อยเข้าหีบตั้งแต่ช่วงวันที่ 7 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันรวม 79 วัน พบว่า มีปริมาณอ้อยเข้าหีบแล้ว 69.72 ล้านตันอ้อย สูงขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของฤดูหีบปีก่อนที่มีผลผลิต 61.36 ล้านตันอ้อย 

 

โดยมีปัจจัยความสำเร็จมาจากการประกันการรับซื้อราคาอ้อยที่ตันละ 1,000 บาท ช่วยสร้างแรงจูงใจให้แก่เกษตรกรหันมาเพาะปลูกอ้อยและร่วมกันดูแลผลผลิตอ้อยให้มีคุณภาพและจัดส่งให้แก่โรงงาน

 

ทำให้คาดว่าปริมาณผลผลิตอ้อยเข้าหีบในปีนี้มากกว่าปีที่แล้วอยู่ที่ประมาณ 87 ล้านตัน ต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่ 90 ล้านตัน

ขณะที่สัดส่วนปริมาณอ้อยสดก็ปรับตัวดีขึ้น โดยมีปริมาณ 53.17 ล้านตันอ้อย คิดเป็น 76.27% และปริมาณอ้อยไฟไหม้ลดลงเหลือ 16.54 ล้านตันอ้อย หรือคิดเป็น 23.73%

 

ซึ่งมาจากความร่วมมือของทุกฝ่าย ตั้งแต่หน่วยงานภาครัฐ ชาวไร่อ้อยและโรงงาน ช่วยกันสร้างความเข้มแข็งแก่อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล ที่ต้องการแก้ไขปัญหาการเผาอ้อยที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 

 

ปิดหีบอ้อยประจำฤดูการผลิตปีนี้ไม่เกินกลางเดือนมีนาคม

 

โดยมีมาตรการสร้างแรงจูงใจเพิ่มรายได้ให้แก่ชาวไร่ด้วยการรับซื้อใบอ้อย พร้อมสนับสนุนรถตัดอ้อยและการเพิ่มประสิทธิภาพการหีบสกัดของโรงงาน  ส่งผลดีต่อผลผลิตน้ำตาลทรายต่อตันอ้อยเฉลี่ย (ยิลด์) อยู่ที่ 107.64 กิโลกรัมต่อตันอ้อย

 

คิดเป็นผลผลิตน้ำตาลรวม 75.05 ล้านกระสอบ แม้ว่าการจัดเก็บผลผลิตในช่วงนี้จะได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศแปรปรวนมีฝนตกในหลายพื้นที่ ทำให้เป็นอุปสรรคในการจัดเก็บผลผลิต
    

ทั้งนี้ โรงงงานน้ำตาล ประเมินว่าภายในกลางเดือนมีนาคมนี้ จะสามารถประกาศปิดหีบอ้อยประจำฤดูการผลิตนี้ได้ โดยในระหว่างนี้จะเร่งสำรวจอ้อยค้างไร่เพื่อป้องกันอ้อยที่ยังหลงเหลือ

 

พร้อมให้คำแนะนำและเตรียมพร้อมแหล่งน้ำเพื่อใช้ในการเพาะปลูกอ้อยในฤดูการผลิตใหม่เพื่อเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกและปริมาณผลผลิตอ้อยให้มากขึ้น 

 

หลังจากได้ประกาศระบบประกันราคาอ้อย ในรอบการเพาะปลูกใน 3 ปีข้างหน้า (ปี 2565/66 - 2567/68)

 

โดยรับซื้ออ้อยสดที่มีคุณภาพ ในราคา 1,200 บาทต่อตันอ้อย ณ ค่าความหวานเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี ที่ 12.61 ซี.ซี.เอส. ซึ่งจะเริ่มในฤดูการเพาะปลูกปีนี้เป็นปีแรก