SPRC คุมน้ำมันรั่วทะเลระยองได้แล้ว เร่งเก็บขจัดคราบให้เกิดผลกระทบน้อยสุด

เหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจำนวน 400,000 สิตร จากท่อใต้ทะเลของทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเล ของบริษัทสตาร์ปิโตรเลี่ยม รีไฟน์นิ่ง จำกัด มหาชน(SPRC)    ในบริเวณมาบตาพุด จังหวัดระยอง เมื่อกลางดึกวันที่  25 ม.ค. 2565 ทีมตอบโต้ฉุกเฉินให้หยุดกิจกรรมโดยรอบพื้นที่เพื่อความปลอดภัย พร้อมเร่งเข้าแก้ไขปัญหา กระทั่งเวลา 00.18 น. สามารถหยุดการรั่วไหลและคุมสถานการณ์ได้    

แถลงการณ์ของ SPRC ออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุด ระบุ หลังเกิดเหตุได้รับการสนับสนุนจากกองทัพเรือภาคที่ 1 ด้วยการใช้เครื่องบินกองทัพเรือบินลาดตระเวณ เพื่อดูสำรวจการเคลื่อนที่ของน้ำมัน พบว่ามีปริมาณน้ำมันหลงเหลืออยู่ในทะเลประมาณ 20 ตัน

นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน (ESG) ในการช่วยเหลือน้ำยาขจัดคราบน้ำมัน และอุปกรณ์ขจัดคราบน้ำมัน และบริษัทฯได้ประสานงานจาก บริษัท Oil Spill Response Limited (OSRL) ณ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งขณะนี้กำลังส่งผู้เชี่ยวชาญเดินทางมาให้ความช่วยเหลือโดยทันที
  

บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถขจัดและเก็บคราบน้ำมันได้ทั้งหมดภายในไม่ช้า 
    

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้จัดส่งทีมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด สำหรับการดำเนินงานของโรงกลั่นน้ำมัน บริษัทฯ ยังสามารถเดินเครื่องได้ตามปกติโดยไม่มีผลกระทบจากอุบัติการณ์ดังกล่าว

หากมีความคืบหน้า บริษัทฯ จะรายงานสถานการณ์ให้ทราบเป็นระยะจนกว่าสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ
    

เมื่อเวลา 8.00 น.วันที่ 26 ม.ค.นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ ระยอง ได้รับแจ้งว่า ทางบริษัทสตาร์ปิโตรเลี่ยม รีไฟน์นิ่ง จำกัด มหาชน ตั้งอยู่ที่ ต.มาบตาพุด จ.ระยอง เกิดเหตุน้ำมันรั่วที่กลางทะเล
    

โดยมีรายงานว่าเมื่อเวลา 00.10 น.วันที่ 26 ม.ค.65 มีน้ำมันดิบรั่วไหลจำนวน 400,000 สิตร จากท่อใต้ทะเลของทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเล ในบริเวณมาบตาพุด จังหวัดระยอง     ซึ่งทางบริษัทได้ออกแถลงการณ์ พบน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณ ทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล หรือ จุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM)บริษัท สตาร์ ปีโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน)
    

ในทันทีที่เกิดเหตุ บริษัทฯ ได้ระดมทีมเพื่อดวบคุมสถานการณ์ตามแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน อีกทั้งหยุด กิจกรรมในพื้นที่ใกล้เคียงทั้งหมดตามขั้นตอนความปลอดภัย บริษัทฯ มีการแจ้งหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ชุมชน ศูนย์เฝ้าระวังและดวบคุมสิ่งแวดล้อม ศูนย์บัญชาการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉิน และกระจายข่าว และกลุ่มบริษัทข้างเคียง
     

ต่อมาเมื่อเวลา 11.30น.นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรม ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ ระยอง พลตำรวจตรี วรา เวชชาภินันท์ ผบก ภจว ระยองลงเรือของกรมทรัพย์ ที่ท่าเรือบ้านเพ ติดตามเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM)บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม ไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งท่าเรือมาบตาพุดไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ20 กิโลเมตร 
    

ทั้งนี้ บริษัท ได้แถลงการณ์ล่าสุดหลังเกิดเหตุได้รับการสนับสนุนจากกองทัพเรือภาคที่ 1 ด้วยการใช้เครื่องบินกองทัพเรือบินลาดตระเวณ เพื่อดูสำรวจการเคลื่อนที่ของน้ำมัน พบว่ามีปริมาณน้ำมันหลงเหลืออยู่ในทะเลประมาณ 20 ตัน