อัพเดท! น้ำมันดิบรั่ว บ. สตาร์รีไฟน์นิ่งฯ แจงพบน้ำมันหลงเหลือในทะเล 20 ตัน

26 ม.ค. 2565 | 12:14 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ม.ค. 2565 | 19:25 น.

อัพเดท น้ำมันดิบรั่ว บริษัท สตาร์ปิโตรเลี่ยม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ร้่อนหลังสือแจงพบน้ำมันหลงเหลือในทะเล 20 ตัน คาดขจัดและเก็บคราบน้ำมันได้ทั้งหมดโดยเร็ว  

จากกรณีที่วันที่ 26 มกรามคม 2565 กรมควบคุมมลพิษ ได้รับแจ้งจากบริษัท สตาร์ปิโตรเลี่ยม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ว่าได้เกิดเหตุน้ำมันดิบจากท่อใต้ทะเลบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึก หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) ซึ่งเป็นของบริษัทฯ ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง รั่วไหลลงทะเลจำนวน 400,000 ลิตร

 

 

ขณะที่ กรมควบคุมมลพิษ ได้ใช้แบบจำลอง OilMap แสดงให้เห็นว่ากลุ่มน้ำมันดังกล่าวอาจเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งทะเลบริเวณหาดแม่รำพึง จนถึงบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ในเวลาประมาณ 17.00 น.ของวันที่ 28 มกราคมนี้ โดยคาดว่าจะมีน้ำมันไหลเข้าพื้นที่ประมาณ 180,000 ลิตร

 

 

ทั้งนี้ ล่าสุด เวลา 11.30 น. บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินการทำหนังสือแถลงการณ์ฉบับที่ 3 โดยมีข้อความระบุว่า 
พบน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณ ทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM)

 

 

 

 

ตามที่บริษัทฯ แจ้งเหตุน้ำมันดิบรั่วบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งท่าเรือมาบตาพุดไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 20 กิโลเมตร  เมื่อเวลา 21.06 น. วันที่ 25 มกราคม 2565

 

 

 

บริษัทฯ ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพเรือภาคที่ 1 ด้วยการใช้เครื่องบินกองทัพเรือบินลาดตระเวณเพื่อดูสำรวจการเคลื่อนที่ของน้ำมัน พบว่ามีปริมาณน้ำมันหลงเหลืออยู่ในทะเลประมาณ 20 ตัน 

 

 

 

นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน (IESG) ในการช่วยเหลือน้ำยาขจัดคราบน้ำมัน และอุปกรณ์ขจัดคราบน้ำมัน

 

 

 

และบริษัทฯได้ประสานงานจาก บริษัท Oil Spill Response Limited (OSRL) ณ ประเทศสิงคโปร์  ซึ่งขณะนี้กำลังส่งผู้เชี่ยวชาญเดินทางมาให้ความช่วยเหลือโดยทันที

 

 

 

บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถขจัดและเก็บคราบน้ำมันได้ทั้งหมดภายในไม่ช้า 

 

 

 

 

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้จัดส่งทีมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
 

 

 

สำหรับการดำเนินงานของโรงกลั่นน้ำมัน บริษัทฯ ยังสามารถเดินเครื่องได้ตามปกติโดยไม่มีผล กระทบจากอุบัติการณ์ดังกล่าว

 

 

 

หากมีความคืบหน้า บริษัทฯ จะรายงานสถานการณ์ให้ทราบเป็นระยะจนกว่าสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ