“อาคม” ย้ำ ลดภาษีน้ำมันทางเลือกสุดท้าย

24 ม.ค. 2565 | 16:39 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ม.ค. 2565 | 23:44 น.

“อาคม” ย้ำลดภาษีน้ำมัน คือ ทางเลือกสุดท้าย เผย อดีตเคยลดภาษีน้ำมันตอนราคาพุ่งถึง 100 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ล่าสุด ครม. เติมเงินใส่กองทุนน้ำมันอีก 2 หมื่นล้าน เสริมสภาพคล่องตรึงดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า มาตรการดูแลราคาน้ำมัน ขณะนี้รัฐบาลก็มีนโยบายชัดเจนในการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ซึ่งใช้กลไกของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปดูแลราคาอยู่ โดยวันนี้ (24 ม.ค.65) ที่ประชุม ครม. ได้อนุมัติวงเงินให้กองทุนน้ำมันฯ เพิ่มเติมอีก 20,000 ล้านบาท จากที่มีอยู่ 10,000 ล้านบาท เพื่อรักษาสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันชื้อเพลิงไปแล้ว พร้อมย้ำบทบาทของกองทุนน้ำมันคือการเข้ามาดูแลเสถียรภาพราคาน้ำมัน ดังนั้นในช่วงที่น้ำมันราคาถูก กองทุนก็ไม่ได้ลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุน เพื่อเป็นการสะสมไว้ใช้อุดหนุนในช่วงที่น้ำมันมีราคาสูง

 

“บทบาทของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีหน้าที่ในการรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมัน ส่วนมาตรการทางภาษีนั้น ถือว่าเป็นทางเลือกสุดท้าย ต้องดูหลายปัจจัยด้วยกัน แต่หากราคาน้ำมันโลกพุ่งสูงจนกองทุนฯ ดูแลราคาไม่ไหว ถึงจะใช้มาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันช่วย ดังนั้นเราจะไม่เข้าไปอุดหนุนเกินความจำเป็น เพราะรายได้จากภาษีน้ำมันก็เป็นรายได้หลักของรัฐบาล” นายอาคม กล่าว

 

อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

นายอาคม กล่าวว่า จากประวัติศาสตร์ช่วงราคาน้ำมันที่รัฐบาลได้ใช้การลดภาษีสรรพสามิตเข้าไปช่วยนั้น เป็นช่วงที่ราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ 100 เหรียญ/บาร์เรล ทั้งนี้มองว่าหากราคาน้ำมันดิบโลกพุ่งขึ้นสูงเกินไป หลายประเทศก็เดือนร้อนเช่นกัน และมองว่าสหรัฐอเมริกา จะนำสต็อกน้ำมันออกมาใช้ เพื่อดึงราคาน้ำมันโลกให้ปรับลงมาก ส่วนกรณีที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น มาจากปัญหาทางเทคนิค ทำให้การผลิตน้ำมันในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางผลิตได้ปริมาณต่ำกว่าความต้องการใช้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น แต่ในขณะนี้กลุ่มประเทสตะวันออกกลางมีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นแล้ว นอกจากนี้กระทรวงพลังงานยังคาดว่า เมื่อพ้นช่วงฤดูหนาว ความต้องการใช้น้ำมันลดลง ก็จะทำให้ราคาน้ำมันลดลงไปด้วย