เครือข่ายฯย้ำจุดยืนไม่แบนบุหรี่ไฟฟ้าแนะดูตัวอย่างฟิลิปปินส์-อังกฤษ

11 พ.ย. 2564 | 12:12 น.
อัปเดตล่าสุด :11 พ.ย. 2564 | 19:13 น.

เครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้าเผยความเคลื่อนไหวจากการประชุมยาสูบโลก ชี้ฟิลิปปินส์แสดงจุดยืนเน้นควบคุมยาสูบแบบสมดุล และจะไม่แบนบุหรี่ไฟฟ้า ด้านอังกฤษระบุผู้สูบบุหรี่ลดต่ำสุดจากมาตรการครอบคลุม รวมถึงสนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้า แนะไทยเดินตามรอย

นายอาสา ศาลิคุปต เครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้า กลุ่มลาขาดควันยาสูบ และเพจ "บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร" เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวจากการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก ครั้งที่ 9 หรือ FCTC COP 9 ว่า กระทรวงต่างประเทศของฟิลิปปินส์เป็นตัวแทนของประเทศลุกขึ้นเรียกร้องให้องค์การอนามัยโลกพิจารณาข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทดแทนการสูบบุหรี่ เพื่อทำให้มาตรการควบคุมการสูบบุหรี่กลับมามีประสิทธิภาพอีกครั้ง 
ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์ยอมรับว่าการเก็บภาษีบุหรี่ทำให้รัฐบาลมีรายได้จำนวนมาก เพื่อใช้บริหารประเทศและทำกิจกรรมรณรงค์เลิกบุหรี่ แต่ฟิลิปปินส์รู้ว่าการเก็บภาษีอย่างสุดโต่งไม่ทำให้การเลิกบุหรี่สำเร็จได้ จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการควบคุมยาสูบแบบสมดุลทั้งทางด้านกฎระเบียบและการเก็บภาษี และย้ำอย่างชัดเจนว่าจะไม่มีการแบนบุหรี่ไฟฟ้าแน่นอน

นายเทอโดโร ลอคสิน จูเนียร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ กล่าวว่า การแบนบุหรี่ไฟฟ้ายิ่งทำให้เกิดตลาดใต้ดินและการลักลอบนำเข้าในประเทศมากขึ้น ซึ่งฟิลิปปินส์เสนอว่าการแก้ปัญหาบุหรี่และตลาดใต้ดินบุหรี่ไฟฟ้าจำเป็นต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย และการปรึกษาหารืออย่างครอบคลุมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด

อาสา ศาลิคุปต
ขณะที่ตัวแทนจากกระทรวงสาธารณสุขประเทศอังกฤษกล่าวว่า อัตราการสูบบุหรี่ในประเทศอังกฤษลดลงอย่างต่อเนื่องมาตลอด 20 ปี ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการควบคุมการบริโภคยาสูบอย่างครอบคลุม ซึ่งรวมถึงการขึ้นภาษีบุหรี่ การห้ามสูบบุหรี่ในพื้นที่สาธารณะ และการสนับสนุนให้ผู้สูบบุหรี่เปลี่ยนไปใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่ได้รับการควบคุม

นายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายลาขาดควันยาสูบ กล่าวว่า ฟิลิปปินส์ให้ความสำคัญกับงานวิจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศซึ่งสรุปตรงกันว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ จึงเพิ่งผ่านร่างกฎหมายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อเป็นกรอบควบคุมยาสูบรูปแบบใหม่ที่จะช่วยให้ดอันตรายให้กับผู้สูบบุหรี่ได้ 
ขณะเดียวกันก็ช่วยป้องกันการขายผลิตภัณฑ์ให้กับเด็กอายุต่ำกว่าเกณฑ์ ส่วนอังกฤษก็เป็นประเทศต้นแบบที่สนับสนุนเรื่องการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อการเลิกบุหรี่ สองประเทศนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการพิจารณาอย่างรอบคอบและรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย มาตรการที่ออกมาจึงมีการศึกษาข้อดีและผลกระทบอย่างรอบคอบแล้ว

มาริษ กรัณยวัฒน์
“ต่างกับไทยที่ไม่เคยศึกษางานวิจัยจากต่างประเทศที่สนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้า และยังกีดกันความคิดเห็นของผู้ที่เห็นต่าง เพื่อสนับสนุนให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกแบนต่อไป โดยไม่สนใจสิทธิของผู้สูบบุหรี่หรือผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า หรือผลกระทบที่กำลังเกิดขึ้นในสังคม จึงต้องการเรียกร้องให้ประเทศไทยยอมรับว่าการแบนบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรเลย และดูตัวอย่างจากประเทศอื่น ๆ เพื่อหาแนวทางในการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศเราให้ดีขึ้น”