“พรรคไทยสร้างไทย” ฟังปัญหาจากชาวสวนยาง

16 ต.ค. 2564 | 16:47 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ต.ค. 2564 | 23:50 น.

“อุทัย” ปลื้ม “คุณหญิงหน่อย” รับฟังปัญหาเกษตรกรชาวสวนยาง พร้อมรับปาก หาก "พรรคไทยสร้างไทย" ได้รัฐบาลบริหารประเทศ จะดันไทย เป็นฮับถุงมือยางโลก สนับสนุนผู้ประกอบการไทยใช้โมเดล อีอีซี ยกเว้น BOI 8 ปี ลดภาษีส่วนบุคคล 10 ปี พร้อมชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ให้ 3 % ต่อปี เป็นระยะเวลา 6 ปี

ดร.อุทัย  สอนหลักทรัพย์  นายกสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2564 ได้นำทีมกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตถุงมือยางไทย ได้รวมตัวกัน 9 โรงงาน จำนวน 14 ราย ได้เดินทางเข้าพบคุณหญิงสุดารัตน์  เกยุราพันธ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย และประธานกรรมการมูลนิธิไทยพึ่งไทย  เพื่อนำปัญหาของผู้ผลิตถุงมือยางไทย 

 

เข้าพบคุณหญิง สุดารัตน์

 

“โดยประกาศที่จะให้ประเทศไทย  เป็น Hub ผู้ผลิตถุงมือยางของโลก  ทั้งลาเท็ก และไนไตร  เพื่อให้ทั่วโลกสนใจเล็งเห็นถึงความพร้อมในการเป็นฐานการผลิตของถุงมือยางที่มีคุณภาพมาตรฐานนำไปใช้ในการป้องกันโรคไวรัสโควิด- 19  และในสถานประกอบการต่างๆ"

 

นายอุทัย กล่าวว่า ดังนั้นประเทศไทยจึงควรแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโดยรัฐบาลจะต้องให้การสนับสนุนตามยุทธศาสตร์ชาติ  20  ปี  ซึ่งจะเป็นการเพิ่มมูลค่าการส่งออกยางจากเดิม  14 %  เป็น  30 %   กลุ่มอุตสาหกรรมถุงมือยางจึงได้นำเสนอปัญหาอุปสรรค  ให้คุณหญิงสุดารัตน์  จะได้นำไปแก้ไขปัญหา  เพื่อเป็นประโยชน์ต่อภาพรวมของประเทศชาติ  โดยเฉพาะเกษตรกรชาวสวนยางที่ขายยางได้ในราคาต่ำกว่าต้นทุนการผลิตอยู่ในขณะนี้ 

 

อธิบายถุงมือแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร

โดยหัวใจสำคัญที่ได้มีการรวมตัวกันในครั้งนี้ คือทุกฝ่ายจะร่วมมือกันเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน  และช่วยกันสอดส่องในการซื้อขายถุงมือยางที่ไม่ได้มาตรฐานการส่งออกไปยังต่างประเทศ   ซึ่งในอนาคต สมาคมวิชาการและสมาคมถุงมือยาง จะช่วยตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานก่อนเพื่อให้ผู้ซื้อจากต่างประเทศทั่วโลกมีความเชื่อมั่นและหันมาสนใจสั่งซื้อถุงมือยางไทยเพิ่มมากขึ้นต่อไปในอนาคต 

นอกจากนี้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมถุงมือยางได้ขอให้พรรคไทยสร้างไทย หากมีโอกาสได้เป็นรัฐบาลขอให้ช่วยขยายฐานการผลิตเพื่อให้สอดคล้องกับการเป็น Hub ถุงมือยางของไทย  โดยให้มีการยกเว้นภาษีให้เหมือนกับที่ให้การสนับสนุน EEC  โดยขอยกเว้น BOI  8  ปี  ลดภาษีส่วนบุคคล  10 ปี  และชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ให้ 3 % ต่อปี  เป็นระยะเวลา 6 ปี  

 

โดยมีข้อแม้ว่าจะผลิตถุงมือยางพาราอย่างน้อย 50%  ไนไตร  50 %  ซึ่งคุณหญิงสุดารัตน์ รับในหลักการและพร้อมที่จะให้การสนับสนุนทั้งนี้เพื่อประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นต่ออุตสาหกรรมยางพารา   เกษตรกรชาวสวนยางทั่วประเทศ  และภาพรวมของประเทศชาติ