กอนช. เตือน 30 ก.ค.-5 ส.ค. ฝนตกหนัก เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินถล่ม น้ำล้นอ่าง

30 ก.ค. 2564 | 17:58 น.
อัปเดตล่าสุด :31 ก.ค. 2564 | 01:02 น.
2.0 k

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ  ออกประกาศ เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก น้ำล้นตลิ่ง  น้ำล้นอ่าง ดินถล่ม บริเวณภาคเหนือ-ตะวันออก-ใต้ ในช่วงวันที่ 30 ก.ค. – 5 ส.ค. เกิดจากมรสุม ปะทะหย่อมความกดอากาศต่ำ ทำให้ฝนตกหนักถึงหนักมาก จังหวัดไหนบ้างเช็กด่วน

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ออกประกาศฉบับที่ 7/2564 ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 เรื่อง เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก น้ำล้นตลิ่ง และอ่างเก็บน้ำ จากการติดตามสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 30 กรกฎาคม – 5 สิงหาคม 2564

 

 

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้ประเมินสถานการณ์น้ำจากฝนคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนัก เฝ้าระวังน้ำไหลหลากส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน และพื้นที่การเกษตรริมลำน้ำในช่วงวันที่ 30 กรกฎาคม – 5 สิงหาคม 2564 ดังนี้

 

1. เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินถล่ม ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก น่าน กาญจนบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา กระบี่ และตรัง

 

2. เฝ้าระวังระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้น กระทบพื้นที่บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำ

 

2.1 ภาคตะวันออก อ่างเก็บน้ำทับลาน จังหวัดปราจีนบุรี อ่างเก็บน้ำบ้านมะนาว อ่างเก็บน้ำด่านชุมพล อ่างเก็บน้ำห้วยแร้ง และอ่างเก็บน้ำคลองสะพานหิน จังหวัดตราด

 

2.2  ภาคตะวันตก อ่างเก็บน้ำห้วยสงสัย จังหวัดเพชรบุรี

 

2.3  ภาคใต้ อ่างเก็บน้ำคลองหาดส้มแป้น จังหวัดระนอง อ่างเก็บน้ำคลองแห้ง จังหวัดกระบี่


 

3. เฝ้าระวังระดับน้ำในลำน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นล้นตลิ่งและท่วมขังบริเวณที่ลุ่มต่ำ

 

3.1 ภาคเหนือ บริเวณห้วยแม่ตื่น อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ลำน้ำว้า อำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน    แม่น้ำยวม อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน แม่น้ำเมย อำเภอแม่ระมาด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และลำน้ำแควน้อย อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก

 

3.2 ภาคตะวันออก บริเวณแม่น้ำปราจีนบุรี อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี แม่น้ำบางปะกง อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี คลองวังโตนด อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี คลองจันทบุรี อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี คลองฉมัน อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี และแม่น้ำตราด อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด

 

3.3 ภาคใต้ บริเวณคลองหลังสวน อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร คลองหาดส้มแป้น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง และคลองตะกั่วป่า อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา

 

ในการนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้

 

1. ติดตามสภาพอากาศและสภาพน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ

 

2. พิจารณาบริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 95 หรือเกณฑ์ควบคุมสูงสุด (Upper Rule Curve) เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายอ่างเก็บน้ำรวมทั้งใช้พื้นที่ลุ่มต่ำเป็นแก้มลิง หน่วงน้ำและรองรับน้ำหลาก

 

3. ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรง และความสามารถใช้งานของอ่างเก็บน้ำ อาคารบังคับน้ำ และติดตามตรวจสอบ ซ่อมแซม แนวคันบริเวณริมแม่น้ำและกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อเตรียมความพร้อมรับน้ำหลากป้องน้ำท่วม ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

4.เตรียมแผนเผชิญเหตุรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ รวมถึงความพร้อมของระบบสื่อสารสำรอง เพื่อบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้ทันที

 

5.ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนล่วงหน้า ให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์

 

ลงนามโดย นายสำเริง แสงภู่วงค์

รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เลขานุการกองอำนายการน้ำแห่งชาติ 

ประกาศ

 

ประกาศ