บุคลิกพลิกอนาคต ฉากที่ 1 อย่าดับเบิ้ลกรุด

14 พ.ค. 2565 | 07:00 น.

บุคลิกพลิกอนาคต ฉากที่ 1 อย่าดับเบิ้ลกรุด : คอลัมน์เปิดมุกปลุกหมอง โดย...ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล หนังสือพิมพ์ ฉบับ 3783

กิเลน ประลองเชิง คอลัมนิสต์ระดับ จี๊ด ยกกำลัง ตึบ (ฮา) คำว่า จี๊ด และ ตึบ หมายถึง เจ๋งสุดยอด 
ท่านไปค้นมาเล่าให้เรารู้ว่า อำแดงกรุด อิสตรีศรีอยุธยา เป็นคนดังในสมัยรัชกาลที่ 5 อำแดงกรุดมีวาสนาได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทกราบบังคมทูลเชิญรัชกาลที่ 5 เสด็จพระราชดำเนินประพาสเข้าชมทุ่งนาของตน 


พระองค์ทอดพระเนตรเห็นดอกบัวละลานตา จัดว่า ปั๊วะ คือ เลิศหรูอลังการ กษัตริย์ คือ กษัตริย์ ท่านทรงมีข้อสงสัยว่า ทำไมดูกลีบบัวไม่สดคล้ายคลึงกัน จึงหยิบขึ้นมาดูก็ทรงรู้ว่าเป็น ดอกบัวพันธุ์ผักชี (หุๆ) เอาจากที่อื่นมาลอยโชว์ประดับไว้ 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า อำแดงกรุด จะ ซุย คือ ขี้โม้ ทรงเห็นว่าเป็นความตั้งใจดีที่จะรับเสด็จจึงไม่ทรงถือสา เรื่องนี้เป็นประเด็นฮือฮากล่าวขานกันทั้งในและราชสำนัก คำว่า กรุด คือ ตบแต่ง ทำเทียม ไม่ใช่ของจริง ก็แพร่หลายกลายเป็น คำแผลง หรือ ศัพท์ผู้ใหญ่แนว คล้ายกับคำว่า สตรอเบอรี่ จุดเด่นที่นักพูดหรือใครก็ตามพึงระลึก คือ รัชกาลที่ 5 ทรงมี พระอี.คิว. สูงมาก ทรงข่มใจไว้ได้ ไม่ขยายผลเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่

 

ผมมีความเห็นส่วนตัวว่า คติพจน์ของพระศาสดา ควรค่าแก่การรับฟังมากกว่า คติปดของนักเฟคนิวส์
นักพูดที่แปลงกายไปฟักตัวอยู่ในกลุ่มนานาวิชาชีพลองเอา พระอัธยาศัย ของ รัชกาลที่ 5 มาเป็นตัวช่วยในการพิจารณาเรื่องเล่าต่อไปนี้ดูสักหน่อย เชื่อว่าบุคลิกของแต่ละท่านจะเสกสรรอนาคตให้พลิกล็อคน็อคหลุมดำได้ไม่ยากเย็น 

พระอานนท์ท่านเกิดความสงสัยเป็นอย่างมากว่า ทำไมคนที่มานั่งฟังการเล่าคติธรรมจึงมีอาการแตกต่าง เช่น คนนั้นนั่งหลับ คนนี้เอานิ้วนั่งเขียนเล่นบนพื้นดิน คนโน้นนั่งเขย่าต้นไม้ อีกคนก็นั่งแหงนดูดาวดูท้องฟ้าไม่สนใจอะไรเลย มีอุบาสกเพียงคนเดียว ที่นั่งด้วยอาการสงบ พระพุทธองค์จึงทรงเอ่ยถึงอดีตชาติว่า

 

“ผู้ที่นั่งแหงนดูท้องฟ้า ในอดีตเคยเกิดเป็นพราหมณ์ทำหน้าที่คอยบอกฤกษ์ยามต่างๆ ด้วยการนั่งดูดาวมาหลายร้อยปี เขายังคงนั่งมองท้องฟ้าดูดาวจึงไม่ได้ยินไม่ได้ฟัง ผู้ที่นั่งเขย่ากิ่งไม้เคยเกิดเป็นวานรมานานแล้วหลายร้อยชาติ เมื่อเกิดมาเป็นคนก็ยังนั่งเขย่าต้นไม้อยู่อย่างนั้น ไม่ได้ยินเสียงธรรมของพระพุทธเจ้าเช่นเดียวกัน

 

ผู้ที่เอานิ้วเขี่ยพื้นดินเล่นก็เคยเกิดเป็น ไส้เดือนหลายร้อยชาติ ผู้ที่นั่งหลับนั้น เคยเกิดเป็น งู นับหลายร้อยชาติ แม้ในชาติปัจจุบันก็ยังนอนไม่อิ่ม สำหรับ อุบาสกที่นั่งฟังอย่างสงบ เคยเกิดมาเป็นพราหมณ์ผู้รอบรู้และศึกษาธรรมะ พยายามค้นคว้าหาความจริงมาแล้วหลายร้อยชาติ มาบัดนี้ได้ฟังธรรมของพระพุทธเจ้าแล้ว จึงมีความยินดีที่จะตั้งใจฟังด้วยดีจนได้ดวงตาเห็นธรรม เขาจึงบรรลุเป็นพระโสดาบัน”


คนที่เรียบร้อย เกลียดหมา พระเดชพระคุณบอกว่า จะเคยเป็น แมว คนที่สู้งานไม่หวั่นงานหนักใช้กำลังมากๆ ไม่สนใจคิดอะไรให้ปวดหัว เดิมเคยเกิดเป็น วัว หรือ ควาย ผมเองก็เคยแซวควายไว้หลายมุกเริ่มสงสัยตะหงิดอยู่เหมือนกันว่าเรากำลังนั่งบูลลี่ตัวเองในอดีตชาติอยู่หรือเปล่า (ฮา)


พระสายปฏิบัติเล่าเรื่องจริงที่เราไม่เชื่อว่าจริง ให้ฟังไปในทางเดียวกันว่า  คนที่แสดงกิริยาการกินอย่างมูมมามและกินจุ ชาติก่อนเคยเกิดเป็นหมู ชาตินี้ยังทำตัวซกมกไม่อาบน้ำอาบท่า จะทำอะไรก็เลอะเทอะเป็นนิจ


คนที่ขยุกขยิกซุกซนเดินไปเดินมาให้นั่งก็ยังเขย่าเท้ากระดิกมือ ก็เคยเกิดเป็น  ลิง คนที่ต่อยตีกันอยู่ร่ำไปก็เคยเกิดเป็น ไก่ชน หรือ วัวชน คนที่เจ้าชู้ดูแต่ โหนว คือ หนังเอ็กซ์ สเปคชาติก่อนเคยเกิดเป็น หมา (แฮ่ๆ) หรือ เคยเกิดเป็น หมู นางหมูเธอกำลังกินอาหาร หมูตัวผู้ยังจะพากเพียรขึ้นขี่หลัง (ฮา) 


มีเกร็ดพิเศษเอามาฝากว่า หญิงใดที่มีสถิติกามคุณสูงกว่าเกรดการศึกษา เดิมชาติก่อนเขาเกิดเป็น ปลา ผู้เคร่งธรรมย้ำว่าเป็น ปลาตะเพียนตัวแม่! ที่เวลาผสมพันธ์เสร็จแล้วจะมีนิสัยทอดทิ้งตัวผู้หันไปหาตัวผู้ตัวใหม่สมสู่ต่อไปเรื่อย ๆ อ้าว! เช่นนี้ก็ต้องปรับสโลแกน ไก่แก่แม่ปลาช่อน เป็น ไก่แก่แม่ปลาตะเพียน สิครับ (ฮา)

                                      บุคลิกพลิกอนาคต ฉากที่ 1 อย่าดับเบิ้ลกรุด
ยังครับมุกริมอ่างยังไม่จบ อันว่าธรรมชาติของ ปลาหมึกตัวเมีย อึดพอที่จะนอนรอให้หมึกตัวผู้มาเข้าคิวสมสู่กับเธอได้โดยไม่สนใจสายตาของ ปู ปลา กุ้ง หอย ขอแค่ให้เป็นหมึกตัวผู้ที่เชิดชูเสรีภาพและเสมอภาคก็พอ (ฮา) 


ปลาหมึกออกลูกเป็นไข่เมื่อวางไข่แล้วก็จะปล่อยให้ไข่ฟักไปตามธรรมชาติ ไม่ใยดีที่จะดูแล คนที่มีลักษณะนิสัยเช่นนี้ก็มีฐานจิตแต่เดิมมาจาก หมึก หรือ ปลา งานนี้ ข้อสรุปที่ชี้ว่า ต้นตระกูลคนคือลิง เรตติ้งตกลงหลายฮวบ


มาถึงคิวนักพูดกันบ้าง ผู้ที่มีนิสัยทางการพูดในทางไม่ดีไม่ว่าจะเป็น พูดเท็จ พูดคำหยาบ พูดส่อเสียด หรือ พูดเพ้อเจ้อ คนที่มีนิสัยพูดจาก่อความเดือดร้อนให้คนอื่นด้วยคำพูดก็เคยเกิดเป็น สุนัข คนที่ผมคุ้นเคยบอกผมนานแล้วว่า ที่คนเปรียบเปรยกันเองว่า คนปากหมา เพราะว่า สุนัขมักจะเห่าโดยไม่ดูกาละเทศะ กำลังจะแว่บออกไปหากิ๊กมันดันทะลึ่งเห่าเล่นเอาปวดเข่า เพราะเราวิ่งหนีเมียแทบไม่ทัน (ฮา)


เรื่องที่เลือกมาเล่าบอกให้ผมรู้ตัวว่า วันใดที่บรรยายแล้วเจอผู้ฟังจอมกวนชวนโต้เถียงผมจะต้องฉุกคิดให้ทันว่า เขาไม่ได้ผูกปิ่นโตหมายตาที่จะ อะจิโก๊ะ อะจิเก๊ะ แปลว่า สะเหร่อ กับเราแต่เพียงผู้เดียว เขาเจอใครในช่วงที่เกิด จิตคราส ก็จะมีท่าที สมะถุย แปลว่า แย่ ก็เอาเป็นว่า กรุดได้กรุดไปเราอย่าไปดับเบิ้ลกรุดเป็นพอ