บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ ถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าเอกชนชั้นนำของประเทศไทย โดยตั้งเป้าบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emission) ในปี 2593 ซึ่งได้ประกาศแผนกลยุทธ์สำคัญสำหรับปี 2568 ได้แก่ 1.การเติบโตของพลังงานหมุนเวียน และการขยายธุรกิจในระดับโลก 2.มุ่งสู่การเป็นพันธมิตรหลักในการจัดหาพลังงานให้กับ Data Centers ในประเทศไทย และ 3.การจัดสรรเงินทุน (Capital Allocation) อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาวและยั่งยืน
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ในการขับเคลื่อนการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทเพื่อให้บรรลุ Net Zero ภายในปี พ.ศ. 2593 ได้มีการตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้ารวม 10,000 เมกะวัตต์ ในช่วงปี 2567-2573 ผ่านการลงทุนครอบคลุมบริษัทย่อยและบริษัทร่วมทุนที่มีศักยภาพทั้งหมดราว 136,000 ล้านบาท โดยเป็นในส่วนของการลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียนราว 85% หรือประมาณ 1.15 แสนล้านบาท และในส่วนของการขยายกำลังผลิตไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมราว 20,400 ล้านบาท หรือสัดส่วน 15 %
ทั้งนี้ เม็ดเงินลงทุนแบ่งเป็นการลงทุนผ่านบริษัทย่อยราว 96,000 ล้านบาท และบริษัทร่วมทุนราว 40,000 ล้านบาท ซึ่งเงินลงทุนทั้งหมดจะเป็นในส่วนของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้นราว 70,000 ล้านบาท
สำหรับการลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียน จะขยายการลงทุนทั้งการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์(โซลาร์ฟาร์ม) และโซลาร์ฟาร์มบวกแบตเตอรี่ พลังงานแสงอาทิตย์ทุนลอยนํ้า โซลาร์รูฟท็อป พลังงานลมทั้งบนฝั่งและในทะเล และพลังงานนํ้า เป็นต้น ผ่านการร่วมทุน การเข้าซื้อกิจการ และการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง ในประเทศเป้าหมาย อาทิ เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านการร่วมทุน การเข้าซื้อกิจการ และการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทตั้งเป้าหมายไว้ว่า ภายในปี 2573 จะเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนเป็น 5,600 เมกะวัตต์ หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 56% จากกำลังผลิตติดตั้งไฟฟ้าทั้งหมดที่ 10,000 เมกะวัตต์
ปัจุบันกลุ่มบริษัทมีกำลังผลิตไฟฟ้าตามสัญญาอยู่ที่ราว 5,893 เมกะวัตต์ เปิดดำเนินงานเชิงพาณิชย์แล้ว 4,071 เมกะวัตต์ เป็นในส่วนของโรงไฟฟาพลังความร้อนร่วมสัดส่วน 72 % และเป็นในส่วนของพลังงานแสงอาทิตย์ 25.8% พลังงานนํ้า 1.6 % และพลังงานลม 0.4 % และอยู่ระหว่างการก่อสร้งและพัฒนาโครงการราว 1,822 เมกะวัตต์
“การให้ได้มาซึ่งกำลังการผลิตดังกล่าวบริษัทจะขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเป้าหมายที่มีการเติบโตพลังงานหมุนเวียนค่อนข้างสูง อย่างจีน สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกกลาง และออสเตรเลีย ซึ่งมีการประมาณว่าเมื่อถึงปี 2573 พลังงานหมุนเวียนในประเทศเหล่านี้จะมีการเติบโตถึง 7,711 กิกะวัตต์ ถือเป็นโอกาสที่บริษัทจะเข้าไปลงทุนได้ ขณะที่การลงทุนในประเทศไทย การลงทุนจะขยายตามแผนการพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าหรือพีดีพีของประเทศ ที่จะประกาศออกมาในปี 2568”
นายนพเดช กรรณสูต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจในประเทศไทยและโซลูชั่นธุรกิจอุตสาหกรรม กลุ่ม บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ กล่าวว่า สำหรับการมุ่งสู่การเป็นพันธมิตรหลักในการจัดหาพลังงานให้กับ Data Centers ในประเทศไทยนั้น ถือเป็นธุรกิจใหม่ของกลุ่มบริษัท ซึ่งกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนธุรกิจ มีการหารือกับผู้สนใจที่จะมาลงทุนประมาณ 4-5 ราย ที่จะมาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมอมตะ คาดว่จะได้ข้อสรุปประมาณไตรมาสแรกของปี 2568 โดยมีความต้องการไฟฟ้าสีเขียวประมาณ 300-500 เมกะวัตต์
“บริษัทมุ่งสู่กาคเป็นพันธมิตรหลักในการจัดหาพลังงานให้กับ Data Center ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าญี่ปุ่นแล้ว 20 เมกะวัตต์ และจะมีแผนซื้อไฟฟ้าเพิ่มเป็น 40 เมกะวัตต์ และ100 เมกะวัตต์ในอนาคต นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างกระบวนการเจรจาทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับศูนย์ข้อมูลขนาดรวม 310 เมกะวัตต์”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง