โบรกชี้สถิติหุ้นไทยเดือน ม.ค. 68 ดี ความกังวลเม็ดเงิน LTF เป็นเพียงระยะสั้น

04 ม.ค. 2568 | 07:00 น.

บล.พาย ชี้สถิติหุ้นไทยเดือน ม.ค. 68 ดีแต่ปัจจัยพื้นฐานปัจจุบันไม่ดีเท่านัก ห่วง "โดนัลด์ ทรัมป์" ป่วนเศรษฐกิจโลกสะเทือนถึงไทย แนะลงทุนหุ้นอิงเศรษญกิจในประเทศ AOT BDMS CRC CBG KTB WHA และ ITC ติดโผ

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยกำลังเตรียมจะเผชิญกับความเสี่ยงจากการมาของ "โดนัลด์ ทรัมป์" ที่เน้นนโยบายการเติบโตของสหรัฐฯ โดยที่ไม่สนใจประเทศอื่นๆ

ที่มองว่าอาจเป็นปัจจัยที่เข้ามากดดันต่อภาคการส่งออก การท่องเที่ยว และมีผลต่อเศรษฐกิจไทยที่เสี่ยงจะเกิด Downside Risk ผสานกับความเสี่ยงกระแสเงินทุนอาจไหลออกจากคาดการณ์ว่าดอกเบี้ยสหรัฐฯมีแนวโน้มลดน้อยลงจากประมาณการครั้งก่อนจากความเสี่ยงเงินเฟ้อสหรัฐฯ ทรงตัว

โดยที่ปัจจัยระยะสั้นนั้น ทางฝ่ายคาดว่าอาจมีความกังวลเกี่ยวกับการขายของสถาบันตามเม็ดเงิน LTF ที่ครบกำหนด อย่างไรก็ดี ทางฝ่ายให้น้ำหนักปัจจัยข้างต้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ประเมินว่าปัจจัยมหภาคมีผลมากกว่า

นอกเหนือจากปัจจัยต่างประเทศแล้วก็พบว่าภายในประเทศก็ไม่ได้โดดเด่นมากนัก จากการเติบโตเศรษฐกิจที่เริ่มขยายตัวต่ำลง หนี้ครัวเรือนระดับสูง หุ้นแนะนำจึงเน้นที่ Domestic Play & Defensive ประกอบไปด้วย AOT BDMS CRC CBG KTB WHA และ ITC เป็นต้น

ทั้งนี้ จากสถิติหุ้นไทยในเดือน ม.ค. มักสดใส หากพิจารณาตั้งแต่ปี 2014 – 2024 จะพบว่าเป็นบวกราว 6 ครั้งมีติดลบเพียง 4 ครั้ง และหากพิจารณาลงไปจะพบว่าปี 2020 เกิดเหตุการณ์พิเศษอย่างวิกฤตโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งหากตัดออกไปจะพบว่าเป็นบวกถึง 7 ครั้ง

ส่วนความกังวลประเด็น LTF นั้น เชื่อว่าเป็นเพียงความกังวลสั้นๆ เท่านั้นเพราะในทุกๆ ปีจะมี LTF ที่ครบกำหนดสามารถไถ่ถอนในการขายได้อยู่แล้ว อนึ่งในปี 2018 นั้นดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ 1,700-1,800 ซึ่งเป็นไปได้ที่ผู้ลงทุนส่วนมากแล้วอาจเผชิญภาวะขาดทุนการไถ่ถอนหน่วยลงทุนจึงไม่อาจเกิดขึ้นมากนัก ด้านการขายของนักลงทุนสถาบันประจำเดือน ม.ค. ของแต่ละปีพบว่าช่วงหลังๆ มักเห็นการขายสุทธิ

แต่อย่างไรก็ตามสถิติก็เป็นเพียงสถิติ เพราะในความจริงนั้นสิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกกำลังเผชิญในการลงทุนปี 2568 ได้แก่ การมาของทรัมป์ที่มีกำหนดการรับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค.68 ทั้งนี้ เชื่อว่าช่วงแรกนั้น ทรัมป์จะเล็งพิจารณาปัญหาในประเทศตามที่ได้สัญญาไว้ก่อน อาทิ ปัญหาผู้อพภพ, ลดภาษีนิติบุคคล จึงยังไม่น่าจะเห็นแรงกดดันอย่างมีนัยยะกับเรื่องสงครามการค้ากับประเทศต่างๆ

ด้านปัจจัยพื้นฐานตลาดหุ้นไทยนั้น ต้องยอมรับว่าปี 2568 ยังเป็นอีกปีที่ต้องเผชิญกับหลายความเสี่ยง อาทิ การค้าโลกที่ผันผวน เศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวต่ำ หนี้ครัวเรือนที่สูง การกีดกันการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับหลายประเทศทั่วโลก ที่อาจจะรวมถึงไทย

นอกจากนี้ ยังเล็งเห็นอีกความเสี่ยง ได้แก่ การปรับลดประมาณการกำไร แม้ปัจจุบัน Bloomberg Consensus จะปรับลดมาแล้ว แต่ก็เชื่อว่าจะเห็นการปรับลงอีกจากความผันผวนต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างทางของปีนี้