อาเซอร์ไบจาน เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมกรอบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติ (UNFCCC COP 29) ระหว่างวันที่ 11 ถึง 22 พฤศจิกายน 2024 ซึ่งงานระดับโลกครั้งนี้คาดว่าจะดึงดูดผู้เข้าร่วมได้เกือบ 100,000 คน รวมถึงรัฐบาลจากกว่า 180 ประเทศ ไปยังเมืองบากู
แท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งกรุงบากู เมืองหลวงของอาเซอร์ไบจาน เป็นสัญลักษณ์ที่เเสดงว่าอะไรเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายปีนี้ การพึ่งพาการส่งออกเชื้อเพลิงฟอสซิลของประเทศจะต้องเผชิญกับความกังวลเรื่องภาวะโลกร้อน เนื่องจากบากูจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 29 หรือ COP29
ตั้งแต่แรกเริ่มการประกาศว่าอาเซอร์ไบจานจะเป็นเจ้าภาพการประชุม COP29 สร้างความไม่พอใจให้กับนักเคลื่อนไหวด้านสภาพอากาศและสิทธิมนุษยชนจำนวนมาก โดยตั้งคำถามถึงความมุ่งมั่นของประเทศที่มีต่อนโยบายที่เป็นมิตรต่อสภาพอากาศในช่วงเวลาที่ประเทศพึ่งพารายได้จากเชื้อเพลิงฟอสซิล และได้ดำเนินการปราบปรามผู้เห็นต่างภายในประเทศอย่างจริงจัง การที่อาเซอร์ไบจานได้รับเลือกเกิดขึ้นเพียง 1 ปีหลังจากที่มีการแสดงความกังวลในลักษณะเดียวกันเกี่ยวกับการจัดงานประชุมในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
Crude Accountability องค์กรเฝ้าระวังสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมของลุ่มน้ำแคสเปียน ระบุว่า ประเทศนี้ยังไม่ได้ลงนามใน Global Methane Pledge ซึ่งเป็นข้อตกลงเพื่อจำกัดการมีส่วนสนับสนุนของผู้ผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิลต่อภาวะโลกร้อน
มีบทความต่างๆ มากมายที่ตีพิมพ์ในสื่อทั่วโลก วิพากษ์วิจารณ์การที่อาเซอร์ไบจานเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม COP29 เนื่องจากประเทศนี้เป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่
ขณะที่เมื่อต้นเดือนมกราคม รัฐบาลได้แต่งตั้งให้ มุคธาร์ บาบาเยฟ ซึ่งทำงานให้กับบริษัทน้ำมันของรัฐมานานถึงสองทศวรรษ ดำรงตำแหน่งประธาน COP29
จากนั้น ประธานาธิบดีอิลฮัม อาลีเยฟ ประกาศว่าคณะกรรมการจัดงานการประชุมจะประกอบด้วยผู้ชาย 28 คน และไม่มีผู้หญิง หลังจากกระแสข่าวโจมตีและรับรู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก็มีการแต่งตั้งผู้หญิง 12 คนเข้าเป็นคณะกรรมการ
ธนาคารโลกยังประมาณการว่าแหล่งสำรองน้ำมันในทะเลแคสเปียนของอาเซอร์ไบจาน (เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่ที่สุดโนโลก โดยมีพรมแดนติดต่อกันถึง 5 ประเทศ ได้แก่รัสเซีย คาซัคสถาน เติร์กเมนิสถาน อิหร่าน และอาเซอร์ไบจาน มีพื้นที่ผิวประมาณ 143,000 ตารางไมล์ (371,000 ตารางกิโลเมตร) และความลึกสูงสุด 3,363 ฟุต (1,025 เมตร)
จะหมดลงภายในเวลาประมาณ 25 ปี เมื่อปีที่แล้ว การผลิตน้ำมันของประเทศลดลง 7.4 % เมื่อเทียบกับปี 2022 (ในทางกลับกัน การผลิตก๊าซกลับเพิ่มขึ้น) ความท้าทายในการส่งออกพลังงานในอนาคตน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้ประเทศนำการเติบโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้เป็นหนึ่งใน 5 เสาหลักของการพัฒนาภายในปี 2030
แม้ว่าจะยังเร็วเกินไปที่จะบอกได้ว่าผู้นำอาเซอร์ไบจานจะใช้ COP29 เป็นตัวอย่างอย่างไร แต่การลงทุนในพลังงานหมุนเวียนก็สามารถให้เบาะแสบางอย่างได้
ในปี 2022 อาเซอร์ไบจานได้รับเงินกู้ 114 ล้านดอลลาร์จากแหล่งในยุโรปและเอเชียเพื่อระดมทุนสำหรับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของบริษัทเอมิเรตส์ของรัฐทางตะวันออกของประเทศ ไม่ใช่เเค่เพื่อสนับสนุนการลดการปล่อยคาร์บอนของอาเซอร์ไบจานเท่านั้น แต่ยังมีส่วนสนับสนุนความมั่นคงด้านพลังงานของยุโรปด้วยการเพิ่มปริมาณก๊าซในประเทศสำหรับการส่งออก ตามที่ธนาคารยุโรปเพื่อการบูรณะและพัฒนากล่าวในช่วงประกาศเงินกู้
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีความกังวลว่าประเทศไม่มีแผนที่จะเลิกพึ่งพาการส่งออกเชื้อเพลิงฟอสซิล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความต้องการยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด
มีรายงานว่า บริษัทน้ำมันและก๊าซของรัฐอาเซอร์ไบจานอย่าง Socar และพันธมิตร ตั้งเป้าเพิ่มปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติประจำปีของประเทศจาก 37,000 ล้านลูกบาศก์เมตรในปัจจุบันเป็น 49,000 ล้านลูกบาศก์เมตรภายในปี 2033 นอกจากนี้ Socar ยังตกลงที่จะเพิ่มการส่งออกก๊าซธรรมชาติไปยังสหภาพยุโรปร้อยละ 17 ภายในปี 2026 อีกด้วย
การเคารพสิทธิมนุษยชน
การเป็นเจ้าภาพการประชุมเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศประจำปีช่วยให้ประเทศต่าง ๆ มีโอกาสสร้างชื่อเสียงและมีอิทธิพลต่อวาระเรื่องสภาพภูมิอากาศโลก ตามที่สถาบันธรรมาภิบาลระดับโลกของ University College London กล่าวไว้ แต่ในฟอรัมประเภทนี้ การเคารพสิทธิมนุษยชนอาจมีความสำคัญรองลงมาจากปัญหาความยุติธรรมด้านสภาพอากาศ
เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญเมื่อพิจารณาถึงบรรยากาศทางการเมืองในบากู เมื่อปลายปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนักข่าวหลายคนจากองค์กรสื่ออิสระ จากนั้นในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ประเทศได้จัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีซึ่งถูกมองว่าเป็นการจัดฉากและเต็มไปด้วยการทุจริต
ความตึงเครียดเรื่องสิทธิมนุษยชนและสภาพทางการเมือง รวมถึงความขัดแย้งในนากอร์โน-คาราบัค เป็นตัวการที่ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างบากูและสภายุโรป สำหรับอาเซอร์ไบจาน COP29 ถือเป็นโอกาสที่ดีในการเริ่มต้นใหม่ โดยสร้างภาพลักษณ์ใหม่และลดความสำคัญของการปฏิบัติต่อสิทธิมนุษยชนที่ไม่เหมาะสม
จุดยืนของอาเซอร์ไบจานในประเด็นสภาพภูมิอากาศ
เมื่อไม่นานนี้ อาเซอร์ไบจานได้ประกาศแผนเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนในภาคพลังงานเป็นเกือบหนึ่งในสาม สำหรับประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่เช่นอาเซอร์ไบจาน ถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่าสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนในปัจจุบันอยู่ที่ 20.86%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง