การประชุมสมัชชาภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 29 หรือ COP29 ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ ไม่เพียงแต่เป็นเวทีการเจรจาสำคัญสำหรับนานาชาติในการร่วมมือกันแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นจุดชี้ขาดในเรื่องการเงินเพื่อสนับสนุนการแก้ไขวิกฤตสภาพภูมิอากาศทั่วโลกอีกด้วย ประเด็นสำคัญในครั้งนี้คือการหารือเกี่ยวกับเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจนและการร่วมมือทางเศรษฐกิจในระยะยาว ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ "New Collective Quantified Goal" (NCQG)
COP หรือ "Conference of the Parties" จัดขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2538 (ค.ศ. 1995) เป็นการประชุมระหว่างประเทศที่มุ่งเน้นเรื่องการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การประชุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติประจำปี 2024 ครั้งนี้ หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ COP29 (การประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 29) จะจัดขึ้น ณ กรุงบากู สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน ระหว่างวันที่ 11-22 พฤศจิกายนนี้
หนึ่งในหัวข้อหลักที่จะมีการหารือใน COP29 คือ "New Collective Quantified Goal" หรือ NCQG ซึ่งเป็นเป้าหมายการเงินใหม่ที่ทุกประเทศจะต้องตกลงกัน NCQG จะกำหนดแนวทางการจัดหาเงินทุนให้เพียงพอต่อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสนับสนุนการปรับตัวของประเทศที่ประสบกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมต้องการเงินทุนจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับประเทศกำลังพัฒนา การประชุมครั้งนี้จึงเน้นการหารือเกี่ยวกับการจัดสรรเงินทุนเพื่อให้ทุกประเทศสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ ไม่ว่าจะเป็นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกหรือการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป
ความสำคัญของ NCQG ยังรวมถึงการพิจารณาถึงความยุติธรรมในการแจกจ่ายเงินทุนระหว่างประเทศพัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแต่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่จำกัด ซึ่งการแก้ไขปัญหานี้จำเป็นต้องพึ่งพาความร่วมมือจากนานาชาติอย่างใกล้ชิด
ในการประชุม COP28 ที่กรุงดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา มีการสานต่อความพยายามในการจัดตั้งกองทุนสำหรับชดเชยความสูญเสียและความเสียหายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยการประชุมครั้งนี้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการผลักดันให้กองทุนนี้สามารถปฏิบัติได้จริง ซึ่งเป็นความคืบหน้าที่ชี้ให้เห็นว่าประเทศต่างๆ เริ่มตระหนักถึงความจำเป็นในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทว่า COP29 ต้องให้ความสำคัญกับการนำแผนเหล่านี้ไปปฏิบัติจริงในระดับสากล
นอกเหนือจากรัฐบาล ภาคเอกชนก็มีบทบาทสำคัญในการจัดหาเงินทุนและการดำเนินโครงการด้านพลังงานสะอาด โดยบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งได้ประกาศเป้าหมาย Net Zero หรือการไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิภายในปี พ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050) ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน
การแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำได้โดยประเทศใดประเทศหนึ่งเพียงลำพัง ต้องการความร่วมมือจากนานาชาติทั้งในด้านการเงิน เทคโนโลยี และการสนับสนุนในด้านนโยบายเพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมกัน
ประชาชนทั่วโลกต่างจับตามองการประชุม COP29 ด้วยความหวังว่าประเทศต่าง ๆ จะสามารถบรรลุข้อตกลงที่เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะในเรื่องการเงิน ที่จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่าการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร
อีกหนึ่งกลุ่มสำคัญที่มีบทบาทคือเยาวชนและองค์กรประชาสังคมที่ผลักดันการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม การมีส่วนร่วมของกลุ่มเหล่านี้ในการกดดันให้รัฐบาลและภาคธุรกิจดำเนินการอย่างจริงจังเป็นสิ่งที่ทำให้การประชุม COP มีความหมายมากยิ่งขึ้น
การประชุม COP29 เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในการสร้างข้อตกลงด้านการเงินที่จำเป็นต่อการต่อสู้กับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ การร่วมมือของนานาชาติและภาคธุรกิจจะเป็นกุญแจสำคัญในการบรรลุเป้าหมายด้านพลังงานสะอาดและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
แหล่งข้อมูล:
UNFCCC Official Site "COP29 Overview"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง