วันนี้ (วันที่ 14 มีนาคม 2568) สมาคมนักบินไทย ได้ยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อขอให้คุ้มครองชั่วคราวและพิจารณาเพิกถอนประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่องการอนุญาตให้คนต่างด้าวเข้ามาทำหน้าที่นักบินประจำอากาศยานด้วยวิธีการเช่าพร้อมผู้ประจำหน้าที่ (Wet Lease) สามารถปฏิบัติการบินในประเทศได้ เนื่องจากเห็นว่าประกาศดังกล่าวมีข้อบกพร่องและผลกระทบที่ร้ายแรงต่ออุตสาหกรรมการบินไทย
ล่าสุด กัปตัน ธีรวัจน์ อังคสกุลเกียรติ นายกสมาคมนักบินไทย เปิดเผยว่า ศาลปกครองสูงสุด ได้รับคำร้องของทางสมาคมนักบินไทยแล้ว และมีการขอให้ส่งเอกสารเพิ่มเติมตามมาอีกเล็กน้อย เกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้น
โดยทางทนายความของสมาคมฯจะเตรียมเอกสารให้เร็วที่สุด เพื่อยื่นเพิ่มเติมต่อศาล และสมาคมฯก็จะรอการพิจารณาของศาลต่อไป
1. การออกประกาศดังกล่าวเป็นการละเมิดกฎหมายและหลักการอุตสาหกรรมการบิน
พระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 กำหนดให้ “อาชีพนักบิน” เป็นอาชีพที่สงวนไว้สำหรับคนไทยโดยเด็ดขาดกรณีดังกล่าวสามารถยกเว้นได้ตามมาตรา 14 เฉพาะเพื่อวัตถุประสงค์ 3 ประการเท่านั้น ได้แก่
1.เพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศ
2.เพื่อรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือ
3. เพื่อป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะ
กรณีที่เกิดขึ้นแม้จะอ้างว่าเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่ก็ไม่ถึงเป็นความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ จึงไม่เข้ามาตรา 14 ที่จะออกประกาศกาหนดข้อยกเว้นได้
การอนุญาตให้นักบินต่างชาติทำงานในประเทศไทยผ่านการเช่า Wet Lease ขัดต่อพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 ซึ่งกำหนดให้ผู้ควบคุมอากาศยานต้องมีสัญชาติไทย
2. ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินและเศรษฐกิจไทย
ปัจจุบันมีนักบินไทยที่ว่างงานกว่า 1,700 คน จากจำนวนนักบินทั้งประเทศประมาณ 5,000 คน ซึ่งสามารถรองรับความต้องการของสายการบินได้โดยไม่จำป็นต้องนำเข้านักบินต่างชาติ
การจ้างนักบินต่างชาติผ่านระบบ Wet Lease อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของอุตสาหกรรมการบินในระยะยาว และลดโอกาสการพัฒนาศักยภาพของนักบินไทย
3. ข้อกังวลด้านความมั่นคงและมาตรฐานการบิน
การเปิดโอกาสให้นักบินต่างชาติดำเนินการบินภายในประเทศ อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของระบบการบินพลเรือนของไทย และอาจถูกองค์กรการบินระหว่างประเทศพิจารณามาตรการตรวจสอบที่เข้มงวดขึ้น
สมาคมนักบินไทยขอยืนยันว่าการสนับสนุนการจ้างงานนักบินไทยเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน และขอเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนและยกเลิกประกาศดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อปกป้องสิทธิ์ของนักบินไทยและรักษามาตรฐานอุตสาหกรรมการบินไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล