จับตา ครม.เคาะร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ดัน "กาสิโนถูกกฎหมาย"

13 ม.ค. 2568 | 06:00 น.

จับตา ครม. วันนี้ 13 มกราคม 2568 กระทรวงการคลัง เสนอร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร เปิดทางผลักดัน "กาสิโนถูกกฎหมาย" รวม 9 หมวด 65 มาตรา หลังเปิดรับฟังความติดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเสร็จสิ้นแล้ว

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 13 มกราคม 2568 นี้ กระทรวงการคลัง จะเสนอ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... หลังจากผ่านการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเสร็จสิ้นแล้ว ถือเป็นหนึ่งในกฎหมายสำคัญตามนโยบายรัฐบาล เพื่อผลักดันการหารายได้ใหม่ โดยเฉพาะการเดินหน้าการจัดตั้ง "กาสิโนถูกกฎหมาย" ขึ้นในประเทศไทย

ทั้งนี้ที่ผ่านมา สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ตั้งแต่วันที่ 2 - 18 สิงหาคม 2567 จากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาชนทั่วไป เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 สรุปได้ดังนี้

สาระสำคัญ ร่างพ.ร.บ.การประกอบสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ที่เปิดรับฟังความคิดเห็น ประกอบด้วย 9 หมวด 65 มาตรา โดยกำหนดให้ “สถานบันเทิงครบวงจร” หมายความว่า การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงตามบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัตินี้หลายประเภทรวมกัน ร่วมกับกาสิโน และกำหนดให้ “กาสิโน” หมายความว่า การจัดให้มีการเข้าเล่นหรือการเข้าพนันในสถานที่ที่กำหนดเป็นการเฉพาะ

หมวด 1 คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร (มาตรา 6 – 14) 

กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร (คณะกรรมการนโยบายฯ) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายเป็นรองประธาน มีกรรมการโดยตำแหน่ง 9 คน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกิน 6 คน และมีเลขาธิการเป็นกรรมการและเลขานุการ 

มีหน้าที่และอำนาจในการกำหนดนโยบายของสถานบันเทิงครบวงจร ทั้งในส่วนของการบริหารจัดการ การป้องกัน แก้ไข หรือเยียวยาผลกระทบ จำนวนใบอนุญาตและพื้นที่การประกอบสถานบันเทิงครบวงจร หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการขออนุญาตและเลิกประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ประเภทกิจการที่อาจดำเนินการได้ในสถานบันเทิงครบวงจร 

กำหนดสัดส่วนพื้นที่กาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจร เวลาเปิดปิดและสถานที่ตั้งของสถานบริการ วิธีการลงทะเบียนและอัตราค่าธรรมเนียมเข้าสถานประกอบการกาสิโน การให้สินเชื่อแก่ผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันในกาสิโน หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวกับผู้ถือหุ้น รวมไปถึงมีหน้าที่และอำนาจในการพิจารณาให้ ต่ออายุ หรือเพิกถอนใบอนุญาต การโอนสิทธิตามใบอนุญาต การออกข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่งต่าง ๆ

หมวด 2 คณะกรรมการบริหาร (มาตรา 15 – 19)

กำหนดให้มีคณะกรรมการบริหาร ซึ่งมีบุคคลซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นประธาน มีกรรมการ โดยตำแหน่ง 11 คน มีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกิน 3 คน และเลขาธิการเป็นเลขานุการ

โดยให้คณะกรรมการบริหารมีหน้าที่และอำนาจในการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเชิญชวน โฆษณา ประชาสัมพันธ์ หรือจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย และการขอรับใบแทนใบอนุญาต พิจารณาอนุมัติแผนยุทธศาสตร์ แผนการดำเนินงาน แผนการใช้จ่ายเงินและงบประมาณรายจ่ายประจำปีของสำนักงานกำกับการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร 

กำหนดหลักเกณฑ์และอัตราในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมต่าง ๆ พิจารณาอุทธรณ์เรื่องร้องเรียน พิจารณาคำอุทธรณ์หรือคำร้องทุกข์ รวมถึงค่าใช้จ่ายของสำนักงานฯ ตลอดจนการออกข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่งต่าง ๆ

หมวด 3 สำนักงานกำกับการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร (มาตรา 20 – 28)

กำหนดให้มีสำนักงานฯ มีฐานะเป็นนิติบุคคลและไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ โดยให้มีสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพมหานคร มีหน้าที่และอำนาจในการศึกษา รวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับสถานบันเทิงครบวงจร จัดทำแผนยุทธศาสตร์ แผนการดำเนินงาน แผนการใช้จ่ายเงินและงบประมาณรายจ่ายประจำปี

รวมทั้งกำกับ ตรวจสอบ ควบคุม และติดตามสถานบันเทิงครบวงจร กำหนดหลักเกณฑ์ ประเภท ลักษณะ วิธีการเล่น ลักษณะของบุคคลต้องห้าม รับเรื่องร้องเรียน รวมถึงการออกข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่งต่าง ๆ รวมไปถึงการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ค่าบำรุง ค่าตอบแทน หรือค่าบริการในการดำเนินการต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์

ทั้งนี้ให้มีทุนและทรัพย์สินประกอบด้วยเงินอุดหนุนทั่วไปที่รัฐบาลจัดสรร เงินอุดหนุนจากหน่วยงานของรัฐ ค่าธรรมเนียมการขอใบอนุญาต ใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาต และการเข้าสถานประกอบการกาสิโนของผู้มีสัญชาติไทย ค่าธรรมเนียม ค่าบำรุง ค่าตอบแทน ค่าบริการ ส่วนดอกผลของเงินหรือรายได้ ของสำนักงานฯ และให้นำส่งรายได้หักค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินการเป็นรายได้แผ่นดิน

หมวด 4 เลขาธิการ (มาตรา 29 – 37)

กำหนดให้สำนักงานฯ มีเลขาธิการ ซึ่งคณะกรรมการนโยบายฯ แต่งตั้งโดยได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี มีหน้าที่บริหารกิจการของสำนักงานฯ โดยให้มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี และดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 2 วาระ 

หมวด 5 พนักงานเจ้าหน้าที่ (มาตรา 38 – 40)

กำหนดให้สำนักงานฯ แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยให้มีหน้าที่และอำนาจในการเข้าไปในสถานที่ดำเนินการหรือสถานที่ตั้งของผู้รับใบอนุญาตเพื่อสังเกตการณ์หรือตรวจสอบการดำเนินการ เรียกเอกสารหรือหลักฐานได้

หมวด 6 การอนุญาตให้ประกอบสถานบันเทิงครบวงจร (มาตรา 41 – 50)

กำหนดให้สถานบันเทิงครบวงจรตั้งอยู่ในบริเวณเขตพื้นที่ตามที่กำหนด ผู้ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรต้องเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดซึ่งจดทะเบียนในประเทศไทย ที่มีทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท ให้ใบอนุญาตมีอายุ 30 ปีนับแต่วันที่ได้รับใบอนุญาต

โดยผู้รับใบอนุญาตจะต้องชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและค่าธรรมเนียมรายปี พร้อมประเมินประสิทธิภาพทุก 5 ปี และอาจพิจารณาต่ออายุได้คราวละไม่เกิน 10 ปี

หมวด 7 การควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (มาตรา 51 – 59)

กำหนดให้การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงในสถานบันเทิงครบวงจร จะกระทำได้เฉพาะตามบัญชีแนบท้ายกฎหมายนี้ โดยกิจกรรมใดของสถานบันเทิงในสถานบันเทิงครบวงจรที่อยู่ภายใต้บทบัญญัติหรือการกำกับดูแลตามกฎหมายอื่น ให้ผู้รับใบอนุญาตดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น และหนี้ที่เกิดจากการจัดให้มีการเข้าเล่นหรือเข้าพนันให้เป็นหนี้ที่บังคับได้โดยชอบด้วยกฎหมาย 

ทั้งนี้ ในส่วนของกาสิโนให้กระทำได้เฉพาะในสถานบันเทิงครบวงจรโดยผู้รับใบอนุญาต และเฉพาะประเภทที่กำหนด และห้ามมิให้ผู้รับใบอนุญาตจัดให้มีการเข้าเล่นหรือเข้าพนันผ่านการเชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นใดกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพื่อให้บุคคลภายนอกสถานประกอบการกาสิโนเข้าเล่นหรือเข้าพนันได้ 

รวมถึงต้องจัดให้มีเขตบริเวณของสถานประกอบการกาสิโนที่ชัดเจน และห้ามบุคคลที่อายุน้อยกว่า 20 ปี บุคคลที่ถูกสั่งห้ามเข้า ผู้มีสัญชาติไทยที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนและชำระค่าธรรมเนียมเข้ากาสิโน ต้องมีสัดส่วนของพนักงานคนไทยและต่างด้าวตามที่คณะกรรมการนโยบายฯ กำหนด โดยห้ามผู้รับใบอนุญาตเชิญชวน โฆษณา ประชาสัมพันธ์ หรือจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเกี่ยวกับกาสิโน ในกรณีผู้รับใบอนุญาตไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด จะถูกปรับและอาจถูกเพิกถอนใบอนุญาต

หมวด 8 บทกำหนดลงโทษ (มาตรา 60 – 62)

กรณีผู้รับใบอนุญาตไม่ปฏิบัติตามที่ความกฎหมายกำหนด ให้ดำเนินการแก้ไขตามคำสั่งสำนักงานฯ ภายในเวลาที่กำหนด หากไม่ดำเนินการตามระยะเวลาผู้รับใบอนุญาตต้องชำระค่าปรับ และคณะกรรมการนโยบายฯอาจพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตได้ 

หมวด 9 บทเฉพาะกาล (มาตรา 63 – 65)

ในวาระเริ่มแรกกำหนดให้มีข้าราชการในสำนักนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นเลขานุการทำหน้าที่คณะกรรมการนโยบายฯ และคณะกรรมการบริหารตามกฎหมายนี้ไปพลางก่อน โดยให้รัฐบาลพิจารณาจัดสรรงบประมาณเป็นเงินอุดหนุนให้แก่สำนักงานฯ ไปพลางก่อน