นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์นี้ กระทรวงการคลังจะเสนอการออกสลากการกุศล วงเงิน 10,000 ล้านบาท ระยะเวลาการออก 2 ปี งวดละ 11 ล้านฉบับ
โดยเพิ่มวัตถุประสงค์ให้สามารถนำไปใช้ในโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุนการศึกษา หรือ ODOS ได้ด้วย เพื่อเป็นการขยายโอกาสทางการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนในต่างจังหวัด ได้มีโอกาสไปศึกษายังต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มออกสลากได้ในเดือนก.พ.นี้
ก่อนหน้านี้ โครงการสลากการกุศล มักนำไปใช้เพื่อช่วยเหลือกิจการทางการแพทย์ ระบบสาธารณสุขในประเทศ เช่น ช่วยเหลือโรงพยาบาลให้สามารถพัฒนา ซ่อมแซม ปรับปรุง จัดหาอุปกรณ์เครื่องมือที่สำคัญ รวมถึงการช่วยเหลือทางศาสนา โรงเรียนเพื่อการศึกษา
“แต่ในรอบใหม่นี้ จะเปิดโอกาสให้ทำโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุนการศึกษา ซึ่งเป็นโครงการที่เคยประสบความสำเร็จมาก่อนหน้านี้ได้ด้วย ซึ่งจะช่วยขยายโอกาสทางการศึกษาและสร้างบุคลากรได้ด้วย โดยมี สำนักงาน ก.พ.เป็นผู้ดูแลโครงการ พร้อมกับกำหนดรายละเอียดโครงการ การคัดเลือก”
อย่างไรก็ตาม การออกสลากกุศลงวดละ 11 ล้านใบ จะเป็นการนำสัดส่วนจากโควตาสลากใบ ที่มีอยู่เดิมแล้วมาทำเป็นสลากการกุศล โดยไม่ได้มีการพิมพ์เพิ่มหรือจัดสรรเพิ่มแต่อย่างใด ซึ่งจะทำให้แต่ละงวดมีสลากใบทั่วไปและสลากการกุศลรวมจำหน่ายงวดละ 80 ล้านใบ แยกเป็นสลากกุศล 11 ล้านใบ และสลากใบทั่วไป 69 ล้านใบ ส่วนสลากดิจิทัลยังมีจำหน่ายงวดละ 25 ใบเท่าเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อแตกต่างระหว่างสลากการกุศล และสลากกินแบ่งรัฐบาลทั่วไปคือ ในส่วนสลากการกุศล มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อนำรายได้ไปช่วยเหลือสังคมในด้านต่างๆ เช่น งานสาธารณกุศล การช่วยเหลือผู้ยากไร้ หรือโครงการพัฒนาต่างๆ
โดยผลตอบแทน เงินรางวัลที่ได้จากการถูกรางวัลส่วนหนึ่งจะถูกนำไปสมทบเข้ากองทุนเพื่อการกุศลตามที่ระบุไว้ ทำให้ผู้ซื้อสลากได้ร่วมทำบุญไปในตัว และที่สำคัญ เมื่อถูกรางวัลจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 1% ของเงินรางวัลมากกว่าสลากทั่วไป
ส่วนสลากกินแบ่งรัฐบาล มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อนำรายได้เข้ารัฐบาล เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศ โดยผลตอบแทน เงินรางวัลที่ได้จากการถูกรางวัล จะตกเป็นของผู้ถูกรางวัลทั้งหมด ส่วนการหักเงินรางวัลจะถูกหักภาษีอากรแสตมป์ ณ ที่จ่าย 0.5% ของเงินรางวัลซึ่งน้อยกว่าเงินรางวัลสลากทั่วไป