หลังจากกระทรวงการคลังได้เดินหน้าโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 นั้น พบว่า มีผู้ได้รับสิทธิกว่า 878,431 คน ยังไม่มายืนยันตัวตนเพื่อรับสิทธิสวัสดิการ
โดยนายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ได้มีมติเห็นชอบให้กลุ่มดังกล่าวดำเนินการยืนยันตัวตน และผลการยืนยันตัวตนต้องแสดงสถานะว่า “ผ่านการยืนยันตัวตน (e-KYC)” ภายในวันที่ 26 ธันวาคม 2567
ทั้งนี้ เพื่อรับสิทธิสวัสดิการภายใต้โครงการฯ และสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป
“ผู้ที่ผ่านการยืนยันตัวตนภายในวันดังกล่าว จะไม่ได้รับสิทธิสวัสดิการย้อนหลังสำหรับเดือนก่อนหน้า ในกรณีที่ผู้ผ่านคุณสมบัติไม่ดำเนินการยืนยันตัวตน ภายในวันที่ 26 ธันวาคม 2567 จะถือว่าท่านไม่ประสงค์รับสิทธิ และสามารถลงทะเบียนใหม่ตามโครงการฯ ครั้งต่อไป”
ทั้งนี้ ในการยืนยันตัวตน ผู้ผ่านคุณสมบัติจะต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ (Smart Card) และต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนกับธนาคารใดก็ได้ เพื่อเป็นประโยชน์ในการรับสิทธิสวัสดิการ หากภาครัฐมีการให้สวัสดิการเป็นเงินโอนเข้าบัญชีในอนาคต ซึ่งสามารถยืนยันตัวตนได้ที่ธนาคารกรุงไทย
สำหรับผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมายืนยันด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมายืนยันตัวตนแทนได้ โดยใช้เอกสาร ดังนี้